Page 18 - port
P. 18
2
7.สาระการเรียนรู้แกนกลาง
หินเป็นวัสดุแข็ง เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่หนึ่งชนิดขึ้นไป สามารถจําแนกหินตาม
กระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภทได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร
ิ
หินอัคนีเกดจากการเย็นตัวของแมกมา เนื้อหินมีลักษณะเป็นผลึกทั้งผลึก ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก บาง
ชนิดอาจเป็นเนื้อแก้วหรือมีรูพรุน
ั
หินตะกอน เกิดจากการทับถมของตะกอน เมื่อถูกแรงกดทบและมีสารเชื่อมประสานจึงเกิดเป็นหิน เนื้อหิน
กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเม็ดตะกอน มีทั้งเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด บางชนิดเป็นเนื้อผลึกที่ยึดเกาะกัน เกิด
จากการตกผลึกหรือตกตะกอนจากน้ำโดยเฉพาะน้ำทะเล บางชนิดมีลักษณะเป็นชั้น ๆ จึงเรียกอกชื่อว่า หินชั้น
ี
หินแปร เกิดจากการแปรสภาพของหินเดิมซึ่งอาจเป็นหินอัคนี หินตะกอน หรือหินแปร โดยการกระทําของ
ความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมี เนื้อหินของหินแปรบางชนิดผลึกของแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ บางชนิด
แซะออกเป็นแผ่นได้ บางชนิดเป็นเนื้อผลึกที่มีความแข็งมาก
8.สาระสำคัญ
ลักษณะของหินแต่ละชนิด
โลกเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง จัดอยู่ในพวกดาวเคราะห์หิน ซึ่งมี ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาว อังคาร และ ดาว
พลูโต อีกกลุ่มหนึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่เป็นแก๊ส ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน การที่โลก
เป็นดาวเคราะห์หิน องค์ประกอบส่วนใหญ่ของโลกจึงเป็นหิน แม้ว่าผิวโลกส่วนใหญ่จะปกคลุมด้วยน้ำแต่ใต้พื้นน้ำ
และพื้นดินลึกลงไปมีแต่หิน เราอาจพบหินอยู่ทั่วๆไปบนพื้นโลก หินที่พบอาจมีลักษณะแตกต่างกันในเรื่อง สี เนื้อ
หิน องค์ประกอบ ความหนาแน่น ฯลฯ ซึ่ง อาจจำแนกหินเป็นกลุ่มๆ ได้ตามลักษณะที่สังเกต การจำแนกหินทำให้
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม
การจำแนกหินตามลักษณะ
นักธรณีวิทยาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่อง หิน ดิน และแร่ของโลก ได้แบ่งหินออกเป็น 3 กลุ่ม ตาม
ลักษณะการเกิด คือ หินอัคนี เกิดจากการตกผลึกเย็นตัวและการแข็งตัวของหินหลอมเหลว (แมกมา หรือ ลาวา)
หินตะกอนหรือหินชั้นเกิดจากการทับถม อัดแน่น และการเชื่อมประสานของตะกอนต่างๆกลายเป็นหินและหินแปร
เกิดจากการแปรสภาพของหินเดิมเนื่องจากความร้อนและความดัน หินแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกันที่สามารถ
สังเกตได้

