Page 19 - port
P. 19
3
การเปลี่ยนแปลงของหินในธรรมชาติ
หินในธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงโดยการผุพังอยู่กับที่ ซึ่งแบ่งออกเป็นกระบวนการผุพังทางกายภาพ และ
กระบวนการผุพังทางเคมี กระบวนการผุพังทางกายภาพเกิดจากแรงกระทำต่างๆจากธรรมชาติ เช่น แรงที่เกิดจาก
การขยายตัวและการหดตัวที่ไม่เท่ากันทุกส่วนของหิน เมื่อได้รับความร้อน แรงโน้มถ่วง และแรงดันที่เกิดจากการ
ขยายตัวของน้ำที่ซึมอยู่ตามรอยแตกของหินเมื่อกลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว แรงดันของรากไม้ที่ไชชอนลงในหิน
กระบวนการทางกายภาพทำให้หินแตกแล้วมีขนาดเล็กลง แต่ยังมีสมบัติทางเคมีเหมือนหินเดิม ส่วนกระบวนการ
ี
ทางเคมีเป็นการสลายตัวของหินเนื่องจากปฏิกิริยาเคมี ตัวอย่างของปฏิกิริยาเคมที่ทำให้หิน เปลี่ยนแปลง เช่น การ
เกิดสนิมในเนื้อหินที่มีแร่ซึ่งมีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ การสลายตัวเนื้อหินที่เกิดจากสารละลายกรด หินใหม่ที่เกิด
จากการผุพงโดยกระบวนการเคมีจะมีสมบัติทางเคมีต่างไปจากหินเดิม
ั
หิน คือ ก้อนวัตถุแข็งประกอบขึ้นด้วยแร่หลายชนิดและเกาะรวมกันอยู่ หินแต่ละก้อน อาจมีรูปร่าง ขนาด
สี ลักษณะผิว น้ำหนักแตกต่างกันไป
ประเภทของหิน แบ่งเป็น 3 ประเภท
1. หินอัคนี คือ หินที่เกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของหินหนืดที่ร้อนจัด ซึ่งอาจเย็นตัวภายในเปลือกโลก
หรือภายนอกเปลือกโลก
2. หินตะกอน หรือหินชั้น คือ หินที่เกิดจากสิ่งต่างๆ เช่น เศษหิน กรวด ทราย เป็นต้น มาทับถมกัน
ซึ่งสามารถพบซากดึกดำบรรพ์ (fossil) ได้
3. หินแปร คือ หินอัคนีและหินตะกอนที่ได้รับความร้อนและแรงกดดันสูงจนเปลี่ยนเป็นหินชนิดอื่นๆ
ประโยชน์ของหนอัคนี
ิ
็
1. หินแกรนิต ลักษณะเนื้อหยาบถึงหยาบมาก เนื้อแขงสม่ำเสมอ ทนทานต่อการผุกร่อน อาจมีดอกผลึก
แร่เกาะประสานกันแน่น มีสีอ่อน ใช้ประดับ ปูพื้นผนังอาคาร หินสลัก
2. หินแกบโบร ลักษณะเนื้อหยาบ ผลึกใหญ่ มีสีเข้ม ใช้เป็นหินประดับ
3. หินบะซอลต์ ลักษณะเนื้อแน่น ละเอียด มีรูพรุน สีดำเข้ม ทนทานต่อการผุกร่อน ใช้ก่อสร้าง ทำ
ถนน
่
4. หินแอนดีไซต์ ลักษณะเนื้อละเอียดแน่นทึบสีม่วงเทาแกและดำเข้มใช้ประดับทำถนนทางรถไฟ ก่อสร้าง
5. หินพัมมิซ ลักษณะเนื้อหินสาก เปราะมาก มีรูพรุนขนาดเล็ก ลอยน้ำได้ ใช้ทำวัสดุขัดถ ู

