Page 283 - สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.
P. 283
240
สาราสารกถา
ั
�
วันน้น กาลังมันน้อยกว่าพระยามาร เห็นพระยามารมากันมาก
ก็พากันหนีกลับวิมานหมด ไปแง้มหน้าต่างวิมานดูกัน ว่าเออ!
พระพุทธเจ้าจะสู้พญามารไหวไหมนี่? ไปแง้มหน้าต่างดูกัน
่
พญามารกมาเลย “ใครน่?” ข่เลย “มานงบลลังกข้าพเจ้า
ั
ี
ู
็
์
ั
ี
ี
ทาไม? ลุกไปเด๋ยวน้! เจ้าของบัลลังก์มาแล้ว” พญามารมันขู่
�
พระพุทธเจ้า
�
�
พระพุทธเจ้าก็กาลังภาวนาใกล้จะสาเร็จแล้ว ได้ยินเสียง
ตวาดของพญามาร ก็เลยยกมือข้นมา เหลียวดูไปซ้ายขวา
ึ
ไม่เห็นใครเลย เทวดาหนีหมดแล้ว แต่ก็กล่าวกับพญามารว่า
“บัลลังก์น้ เกิดด้วยบารมีของเรา” พระพุทธเจ้าบอกพญามาร
ี
“ท่านมีพยานไหม?”
ตายแล้ว! หึ...หึ...เออ! เล่นเอากฎหมายมาพูดกันน ี ่
พระยามารอ้างมาตราเลย ใช่ไหม?
ื
กฎหมายมาตราไหน เขาต้องมาอ้าง เพราะเร่องของกฎ-
�
ี
ี
หมายน้ ผิดถูกจะตัดสินอย่างไงน่ พยานมันสาคัญ พยานเอกสาร
พยานบุคคล ว่ากันตามภาษากฎหมาย
พญามารมันก็บอกว่า “ท่านว่าของท่าน ท่านมีพยานไหม?”
ไม่มี!
ู
ั
ี
ั
พญามาร “ว่าไง บลลงก์น้ของใคร?” ถามลกน้องตนเอง
โอ้โฮ.. ก็มากันเป็นหมื่นเป็นแสน ใช่เปล่า? (ใช่)

