Page 9 - ชุดฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณกรรม ชุดที่ 2 เรื่องอุปมา
P. 9
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
6
5. “การเปรียบด้วยการกล่าวว่าสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่กล่าวตรง ๆ แต่ใช้
การกล่าวเป็นนัยให้เข้าใจเอง” คือโวหารภาพพจน์แบบใด
ก. สัทพจน ์
ข. อธิพจน ์
ค. บุคลาธิษฐาน
ง. อุปลักษณ์
6. “การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน” คือ
โวหารภาพพจน์แบบใด
์
ก. ปรพากย
ข. สัญลักษณ์
ค. อุปมา
ง. นามนัย
7. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอุปมาอุปไมย
ก. เจ้าจะเอาป่าชัฏนี่หรือมาเป็นป่าช้า
ข. จะเอาพระบรรณศาลานี่หรือเป็นบริเวณพระเมรุทอง
ค. พระโสตฟังใหวาดแว่วว่าสำเนียงเสียงพระแก้วเจ้าบ่นอยู่งึม ๆ
ี
ง. เมื่อสมเด็จพระมัทรีกำสรดแสนกัมปนาทเพยงพระสันดานจะขาดจะดับสูญ
8. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอติพจน ์
ก. พระกายนางให้เสียวสั่นหวั่นไหวไปทั้งองค์ ดุจชายธงอันต้องกำลังลมอยลิ่ว ๆ
ู่
ข. นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง
ค. ถ้าพี่มิได้ให้ด้วยเสื่อมใสศรัทธาแท้แล้ว ที่ไหนเลยแผ่นดินดานจะกัมปนาทหวาดหวั่นไหวจลาจล
ง. ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดขาดระเนนเอนแล้วก็ล้มลงตรงหน้าพระที่นั่งเจ้า
9. ข้อใดไม่มีการใช้โวหารภาพพจน ์
ก. อุปมาเหมือนคนไข้หนักแล้วมิหนำยังแพทย์เอายาพิษมาวางซ้ำให้เวทนา
ข. รัศมีพระจันทร์ก็มัวหมองเหมือนหนึ่งจะเศร้าโศกแสนวิปโยคเมื่อยามปัจจุสมัย
ั
ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
ง. จึ่งตรัสว่าโอ้โอ๋เวลาปานฉะนเอ่ยมิดึกดื่น จวนจะสิ้นคืนค่อนรุ่งเสียแล้วกระไรไม่รู้เลย พระพายรำเพยพด
ี้
ั
มารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว
10. ข้อใดมีการใช้สัทพจน์โวหาร
ก. นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพนปริมณฑลใต้ต้นหว้า
ื้
ข. พระพายรำเพยพัดมารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดล่ะห้อย
ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
ั
ง. เจ้าเคยมาห้อยโหนโยนชิงช้าชวนกันแกว่งไกว แล้วเล่นไล่ปิดตาเร้นแทบหลังบริเวณพระอาวาส

