Page 235 - กำหนดการสอน-ว31104-วิทยาศาสตร์กายภาพ-ม.5
P. 235

214

               5. สาระการเรียนร  ู้
                       5.1 ความรู้

                              ร่างกายต้องการวิตามินและเกลือแร่เพื่อให้การท างานของระบบต่าง ๆ เป็นไปอย่างปกต อาหารที่
                                                                                                      ิ
                      มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูงมักมีวิตามินและเกลือแร่ในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

                      มนุษย์จึงจ าเป็นต้องได้รับวิตามินและเกลือแร่เพิ่มเติม จากอาหารอื่น เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์บางชนิด  เช่น
                      เหล็ก แคลเซียม

                              วิตามินเป็นสารประกอบอินทรีย์ มีความจ าเป็นต่อกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น วิตามิน A

                       ช่วยเรื่องการมองเห็น วิตามิน C ช่วยปูองกันโรคลักปิดลักเปิด วิตามิน D ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของ
                       กระดูก วิตามิน K ช่วยในการแข็งตัวของเลือด  วิตามินบางชนิดละลายในน้ า  เช่น วิตามิน C วิตามิน B1

                       แต่ละชนิดละลายในไขมัน  ได้แก่ วิตามิน A วิตามิน D วิตามิน E และวิตามิน K ดังนั้นการไม่รับประทาน

                       ไขมันเลย อาจท าให้เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินด้วย













                                                 รูป 3.15 สูตรโครงสร้างของวิตามิน B1 C A และ D


                                จากรูป 3.15 เมื่อพิจารณาโครงสร้างของวิตามิน  C พบว่าเป็นโมเลกุลที่มีหมู่ไฮดรอกซิล (-OH)

                       หลายหมู่ซึ่งเกิดพันธะไฮโดรเจนกับน้ าได  ส่วนวิตามิน B1  นอกจากมีหมู่ไฮดรอกซิลและ หมู่แอมิโนที่เกิด
                                                        ้
                       พันธะไฮโดรเจนกับน้ าได้แล้ว โครงสร้างยังมีประจที่ช่วยท าให้ละลายในน้ าได้ดีขึ้นโดยการแตกตัว วิตามิน C
                                                               ุ
                       และ B1 จึงละลายในน้ าได้  ในทางตรงกันข้าม วิตามิน A และ D ถึงแม้จะมีหมู่ไฮดรอกซิล  แต่โครงสร้างมี

                       ส่วนที่เป็นไฮโดรคาร์บอน อยู่มาก ท าให้เป็นสารที่มีขั้วน้อย  จึงละลายในน้ าได้ไม่ดีแต่ละ ลายได้ดีในไขมัน
                       ซึ่งโครงสร้างมีส่วนที่เป็นไฮโดรคาร์บอนอยู่มาก

                              สมบัติการละลายของวิตามินดังที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามหลักการที่เรียกว่า  “like dissolves

                       like”  คือ สารละลายได้ในตัวท าละลายที่มี ขั้วใกล้เคียงกัน  เนื่องจาก มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
                       ประเภทเดียวกัน  นอกจากนี้การละลายของสารประกอบประเภทอื่น  เช่น กลูโคสละลาย ในน้ า เมนทอล

                       ละลายในน้ ามัน น้ ามันไม่ละลายในน้ าก็เป็นไปตามหลักการเช่นกัน
                              หลักการ like  dissolves  like น ามาใช้เป็นแนวทางในการเลือกตัวท าละลายส าหรับการสกัด

                       สารประกอบอินทรีย์ที่ไม่มีขั้วซึ่งละลายน้ าได้น้อยจากพืช เช่น การสกัดสาระส าคัญจากสมุนไพรด้วยน้ ามัน

                       หรือขี้ผึ้ง การสกัดกลิ่นน้ าหอมจากดอกไม้บางชนิดด้วยเอทานอลซึ่งมีขั้วน้อยกว่าน้ า
                              หลักการ  like  dissolves  like ยังใช้อธิบายกลไกการซักล้างคราบไคลและไขมัน  ของสบู่

                                                                                                         ี่
                       ผงซักฟอกน้ ายาล้างจาน โดยโมเลกุลของสารเหล่านี้มีทั้งส่วนมีขั้วหรือไม่มีขั้ว ซึ่งส่วนไม่มีขั้วท าหน้าทห่อหุ้ม
   230   231   232   233   234   235   236   237   238   239   240