Page 183 - Proceeding_รวมปก_Neat
P. 183
The 1 National Conference on SROI 169
st
2.5 ของสมำชิกทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีลักษณะเฉพำะ คือ มีควำมพร้อม กระตือรือร้น
ชอบทดลองใช้และจะต้องเป็นคนแรกที่ได้ใช้นวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่ ๆ
(2) ผู้น ำกำรใช้นวัตกรรม (early adopter) ประมำณร้อยละ 13.5 ของสมำชิกทั้งหมด ถือได้ว่ำ
เป็นกลุ่มที่มีควำมส ำคัญมำกที่สุดในระบบสังคม เนื่องจำกบุคคลในกลุ่มนี้จะพิจำรณำนวัตกรรม
อย่ำงจริงจังก่อนที่จะตัดสินใจยอมรับและน ำนวัตกรรมไปใช้และถือว่ำเป็นกลุ่มที่มีระดับ
ควำมเป็นผู้น ำทำงควำมคิดสูง ซึ่งส่งผลให้ early adopter มีบทบำทมำกต่อกำรแพร่กระจำย
ของนวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่
(3) บุคคลส่วนใหญ่ที่ยอมรับและใช้นวัตกรรมในระยะต้น (early majority) เป็นกลุ่มสมำชิก
ที่มีมำกถึงร้อยละ 34 ของสมำชิกทั้งหมดที่มีลักษณะเฉพำะคือชอบไตร่ตรองหำเหตุผลเป็นผู้ที่
ไม่ต้องกำรเป็นบุคคลที่ล้ำหลังแต่ก็ไม่ต้องกำรเป็นผู้น ำทำงควำมคิด
(4) บุคคลส่วนใหญ่ที่ยอมรับและใช้นวัตกรรมในระยะหลัง (late majority) เป็นสมำชิกกลุ่มที่ไม่ค่อย
กล้ำเสี่ยงที่จะลองใช้นวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่ ๆ แต่จะรอจนกว่ำจะมั่นใจในควำมคุ้มค่ำ
และนวัตกรรมนั้นได้รับกำรยอมรับจำกบุคคลส่วนใหญ่ในสังคมก่อน จึงจะยอมรับและน ำมำใช้
บุคคลกลุ่มนี้คิดเป็นร้อยละ 34 ของสมำชิกทั้งหมดในสังคม
(5) ผู้ล้ำหลัง (laggard) เป็นกลุ่มที่ตัดสินใจยอมรับและน ำนวัตกรรมมำใช้ช้ำที่สุดในสังคม คิดเป็น
ร้อยละ 16 ของสมำชิกทั้งหมด ซึ่งกำรตัดสินใจของบุคคลในกลุ่มนี้มักจะได้รับอธิพลมำจำกผู้น ำ
กำรใช้นวัตกรรม (early adopter)
รูปที่ 1 กลุ่มผู้ที่ยอมรับและน ำนวัตกรรมไปใช้
ที่มำ: Solomon, et al. (2006)
นวัตกร หรือ innovator จะเป็นกลุ่มแรกที่สุดที่ทดลองใช้นวัตกรรม หลังจำกนั้นจ ำนวนผู้ใช้นวัตกรรม
จะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่บุคคลส่วนใหญ่ในสังคมยอมรับ (critical mass) (Dutta, Geiger, & Lanvin, 2015)

