Page 86 - Proceeding_รวมปก_Neat
P. 86

84


               และอำยุเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตจำกอุบัติเหตุบนท้องถนนเท่ำกับ 25 ปี แต่ก็ท ำให้ได้ตัวเลขที่น้อยกว่ำในกำรศึกษำ

               นี้ คือ มูลค่ำค่ำจ้ำงต่อประชำกรเท่ำกับ 63,000 บำทต่อคนต่อปีเท่ำนั้น เทียบกับผลกำรค ำนวณจำกกำรศึกษำ

               นี้ที่พบว่ำ แรงงำนจ ำนวน 1 คน (เฉพำะคนที่ท ำงำน) สำมำรถสร้ำงผลผลิตได้เท่ำกับ 464,273 บำทต่อปี


                       อย่ำงไรก็ตำม ผลกำรศึกษำครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ำควำมพยำยำมที่จะก ำหนดค่ำตัวแทนทำงกำรเงินส ำหรับ
               กำรค ำนวณมูลค่ำของชีวิตและมูลค่ำของเวลำที่แน่นอนตำยตัวและกลำยเป็นตัวเลขมำตรฐำนส ำหรับวงกำร

               วิจัยและกำรประเมินผลกระทบฯ ไม่น่ำจะเป็นเรื่องที่กระท ำได้ ทั้งนี้ด้วยเหตุผลอย่ำงน้อย 3 ประกำร ดังนี้


                       เหตุผลที่ 1 แนวคิดของกำรค ำนวณมูลค่ำของชีวิตมีหลำยทำง อำทิ กำรคิดมูลค่ำชีวิตในฐำนะที่เป็น

               ปัจจัยกำรผลิต (Factor of production) กำรคิดมูลค่ำชีวิตในฐำนะที่เป็นกำรสะสมทุนมนุษย์ตั้งแต่ก ำเนิด

               เรื่อยไปจนตลอดเวลำของทั้งชีวิต (Human capital) กำรคิดมูลค่ำชีวิตในฐำนะที่เป็นสินค้ำที่ซื้อขำย

               แลกเปลี่ยนได้ (Commodity) และกำรคิดมูลค่ำชีวิตในฐำนะที่เป็นทรัพย์สิน (Asset) ซึ่งขึ้นอยู่กับบริบท
               (Context-based) ของเรื่องที่มนุษย์เข้ำไปเกี่ยวข้องและกลุ่มเป้ำหมำยทำงเศรษฐกิจ ดังนั้นกำรใช้แนวคิด

               ที่ต่ำงกันย่อมท ำให้ค ำนวณมูลค่ำชีวิตได้ต่ำงกัน โดยกำรก ำหนดว่ำจะต้องใช้แนวคิดใดเป็นหลักในกำรค ำนวณ

               มูลค่ำชีวิตอำจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้จะท ำได้หรืออำจจะท ำได้ยำกเพรำะกำรจะตัดสินว่ำควรจะใช้แนวคิดใด

               จึงจะเหมำะสมและให้ผลครอบคลุมเรื่องที่กำรลงทุนด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจะเข้ำไปสร้ำง

               ผลกระทบนั้นคงจะต้องผ่ำนกำรอภิปรำยทำงวิชำกำรที่เข้มข้นเป็นอย่ำงมำกจนกว่ำจะได้ข้อสรุปและก็อำจจะ

               ไม่ได้ข้อสรุปก็เป็นได้


                       เหตุผลที่ 2 รำยละเอียดของกำรค ำนวณมีหลำยแง่มุม แม้แต่ในกำรศึกษำครั้งนี้ก็จะเห็นว่ำ

               หำกให้มูลค่ำชีวิตคิดจำกคนที่ท ำงำนเท่ำนั้นก็จะมีค่ำมำก แต่ก็แลกมำด้วยกำรที่ไม่มีมูลค่ำชีวิตเลยให้แก่คนที่
               ไม่มีงำนท ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ำจะขัดกับหลักมนุษยธรรมหรือควำมเป็นมนุษย์ แต่หำกให้น ้ำหนักของทั้งคนท ำงำน

               และคนที่ไม่ท ำงำนก็จะได้มูลค่ำชีวิตที่ลดลง แต่ก็อำจจะไม่สะท้อนมูลค่ำที่คนที่ท ำงำนสร้ำงขึ้นได้จริง ๆ ดังนั้น

               ในควำมที่มีหลำยแง่มุมเหล่ำนี้สร้ำงควำมหลำกหลำยให้กับมูลค่ำที่ค ำนวณได้ กำรจะตัดสินว่ำมูลค่ำเท่ำใด

               ที่ถูกต้องแน่นอนนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพรำะว่ำขึ้นกับบริบทที่น ำไปวิเครำะห์มำกกว่ำที่จะสำมำรถก ำหนด

               ค่ำที่แน่นอนเพียงค่ำเดียวส ำหรับทุกกรณีได้


                       เหตุผลที่ 3 ควำมอ่อนไหวของกำรก ำหนดสมมติฐำนที่ส ำคัญย่อมท ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงของมูลค่ำ

               ชีวิตเพรำะแม้แต่เพียงกำรเลือกใช้อัตรำคิดลดที่แตกต่ำงไปเพียงเล็กน้อยก็ท ำให้ได้มูลค่ำชีวิตที่แตกต่ำงกันมำก

               ซึ่งกำรจะก ำหนดให้ใช้อัตรำคิดลดเพียงค่ำเดียวที่เป็นมำตรฐำนก็อำจจะไม่ได้รับกำรยอมรับจำกนักวิชำกำร
               โดยทั่วไป เพรำะกำรเลือกใช้อัตรำคิดลดย่อมขึ้นอยู่กับบริบท เช่น อัตรำเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยตำมสถำนกำรณ์

               ที่เป็นอยู่ในขณะนั้นหรืออำจจะขึ้นอยู่กับต้นทุนของเงินทุนซึ่งย่อมผันแปรตำมอัตรำผลตอบแทนของสินทรัพย์

               เสี่ยงประเภทอื่น ๆ ด้วย
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91