Page 42 - นาวิกศาสตร์ เดือน ธันวาคม ๒๕๕๔
P. 42

กองทัพไทยถูกจัดเป็นกองทัพที่มีขนาดกำลังทางเรือ  ต้องการ และมีน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือพอที่จะปฏิบัติ

            อยู่อันดับเหนือกว่า กองทัพประเทศอังกฤษ สเปน  การรบทางอากาศ (Air Combat) ในการปฏิบัติการ
            เยอรมนี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และกองทัพของอีก     ป้องกันภัยทางอากาศให้กองเรือ  หรือปฏิบัติการ

            หลายประเทศ ที่รู้จักกันว่า มีกองทัพเรืออยู่ในระดับ  โจมตีทางอากาศ (Air Attack) ในการให้การสนับสนุน
            ดีที่สุดในโลก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกองทัพไทย รวม  ทางอากาศโดยใกล้ชิด (Close Air Support) ต่อกำลัง
            เรือตรวจการณ์ประเภทต่าง  ๆ  ที่ใช้สำหรับการ    ภาคพื้น หรือ ในการปฏิบัติการต่อต้านเรือผิวน้ำ
            ปฏิบัติการยามฝั่งและอื่น  ๆ  ๑๐๙  ลำ  ด้วย  ทั้งนี้ การยกตัวจากเรือยกพลขึ้นบกของเครื่องบิน
            แต่กองทัพหลายประเทศได้แยกการปฏิบัติการยาม      ประเภทนี้ใช้ในการเคลื่อนย้ายจาก เรือ - สู่ฝั่ง ของฝูงบิน

            ฝั่งออกไปแล้ว                                  ประจำหน่วยยกพลขึ้นบก (Air Combat Element

              ข้อสังเกตเกี่ยวกับปัจจัยพิจารณาที่น่าสนใจต่อไป  ที่มีอัตราการจัดใน Marine Expedetionry Unit)
            คือ  “เรือบรรทุกเครื่องบิน”  ซึ่งกองทัพไทยเป็น  ในการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก
            อันดับ ๗ ใน ๙ ประเทศ ของโลก ที่มีเรือ ซึ่งจัดว่าเป็น
            “เรือบรรทุกเครื่องบิน”  ในประจำการ  ซึ่งก็คือ
            ร.ล.จักรีนฤเบศร การที่ GFP จัด ร.ล.จักรีนฤเบศร
            และเรือลักษณะเดียวกัน  ของ  ทร.อิตาลี  และ
            ทร.สเปน เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน น่าจะเนื่องจาก  ภาพ : กองทัพเรือ
            เรือดังกล่าว มีดาดฟ้าบินที่ปลายสุดทำมุมยก ๑๒ องศา
            ซึ่งเรียกว่า “Ski Jump” สำหรับเพิ่มแรงยกให้เครื่อง
            บินขับไล่/โจมตี ขึ้นลง ทางดิ่ง วิ่งขึ้น (Launch) ด้วย                         ร.ล.จักรีนฤเบศร

            “วิธีวิ่งขึ้นระยะสั้น” สำหรับเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์    ต้นกำเนิดของเรือประเภท  ร.ล.จักรีนฤเบศร
            และเรือที่ใช้ในการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก  คือ  ทร.สหรัฐอเมริกา  โดยมีแนวความคิดที่จะใช้
            แบบต่าง ๆ ที่นิยมใช้กัน ในหลายประเทศมีลักษณะ   ทดแทนเรือบรรทุกเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ เพื่อ
            คล้ายกัน จะแตกต่างที่เรือสองประเภทหลัง อาจมี   ประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่าย ในต้นยุคสงครามเย็น

            อู่ลอยใต้แนวน้ำ และดาดฟ้าบิน ไม่มี Ski Jump  ที่สหภาพโซเวียตรัสเซีย ใช้เรือดำน้ำเป็นอาวุธหลัก

            ใช้สำหรับการปฏิบัติการของเฮลิคอปเตอร์และเครื่อง  ในการถ่วงดุลย์อำนาจกำลังทางเรือกับสหรัฐอเมริกา


            บินขับไล่/โจมตี ขึ้นลง ทางดิ่ง วิ่งขึ้นแบบ “ยกตัว”  เดิมกำหนดให้เป็นเรือประเภท “Sea Control Ship”

            และกลับมาลง (Recovery)  โดยวิธี  “วางตัว”  มีหน้าที่เป็นเรือหลักของหมู่เรือโจมตี ที่มีเรือฟริเกต/
            เหมือนเฮลิคอปเตอร์ การวิ่งขึ้นของเครื่องบินขับไล่/  พิฆาต และเรือส่งกำลังร่วมประกอบกำลังเป็นเรือ
            โจมตี ขึ้นลง ทางดิ่ง โดยวิธี “วิ่งขึ้นระยะสั้น” และการ  คุ้มกันและสนับสนุนภารกิจหลักของหมู่เรือ  คือ

            “ยกตัว” ต่างกันคือ การวิ่งขึ้นแบบยกตัว จะใช้กำลัง  ควบคุมทะเลเฉพาะตำบลที่ โดยมี ขีดความสามารถ


            เครื่องยนต์มาก ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ขณะวิ่งขึ้นมาก  ในการรบผิวน้ำ ด้วยเรือคุ้มกันและอากาศยานประจำเรือ
            จึงต้องบรรทุกไปมาก ไม่มีน้ำหนัก บรรทุกเหลือ    ปราบเรือดำน้ำ โดยเรือคุ้มกันปราบเรือดำน้ำและ
            สำหรับบรรทุกหรือติดตั้งอาวุธได้ และหลังจากวิ่งขึ้น  เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำประจำเรือ จุดเด่นของ
            จะไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือในการปฏิบัติการต่อไป  หมู่เรือนี้ คือ มีขีดความสามารถในการครองอากาศ


            แต่การวิ่งขึ้นระยะสั้น ใช้กำลังน้อยกว่าใช้น้ำมันเชื้อ  (Air Superiority) เหนือยุทธบริเวณได้ตามตำบลที่
            เพลิงน้อยกว่าขณะวิ่งขึ้น จึงไม่ต้องบรรทุกไปมาก   และเวลาที่ต้องการ และให้การสนับสนุนทางอากาศ
            มีน้ำหนักบรรทุกเหลือสำหรับติดตั้งระบบอาวุธตามที่  ในการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก  และ


                                                              นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ๐41
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47