Page 60 - นาวิกศาสตร์ พฤษภาคม ๒๕๖๔
P. 60
ั
ที่ก�าบังได้น้อย แถมยังมี “กับระเบิด” ของข้าศึกยุบยับ กับการปฏิบัติในสถานการณ์จริง แต่กระน้นเราก็รบได้
�
ไปหมด รบด้วยหัวใจ รบด้วยสานึกว่าเราเป็นทหารมีหน้าท ่ ี
ึ
แต่ไม่ว่าจะลาบากยากเย็นแค่ไหน เราก็บุกข้นไป ปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน
�
�
�
ิ
ึ
และทาตามยุทธวิธีทุกอย่าง เร่มด้วยการยิงเตรียมของ เราได้บทเรียนมามากจากศึกบ้านชาราก ซ่งเป็นผลด ี
ั
�
ปืนใหญ่ถล่มเข้าใส่ท่ม่นข้าศึก จากน้นทหารราบก็เคล่อนตาม ท่ทาให้มีการปรับปรุง และได้รับการสนับสนุนหลายเร่อง
ั
ื
ื
ี
ี
ึ
พอข้นไปใกล้ท่หมายเข้าสู่ระยะยิง ทหารเวียดนามก ็ โดยเฉพาะการฝึกกองทัพเรือได้กาหนดนโยบายชัดเจน
�
ี
ึ
อัดกระสุนลงมาหูดับตับไหม้ เราก็สาดสวนข้นไป การบุก ลงมาว่า “รบอย่างไรฝึกอย่างนั้น”
้
�
้
ี
่
่
่
่
ั
ุ
่
ี
็
กชาลง เพราะตองคอยหลบอาวธหนกทตางฝายตางถลม นโยบายน้เห็นผลชัดเจนสาหรับทหารนาวิกโยธิน
ั
เข้าใส่กันด้วย ระหว่างน้นก็มีคนเจ็บโดนกระสุนบ้าง ที่ไปปฏิบัติการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเรา
�
ั
เหยียบกับระเบิดบ้าง ก็ต้องหามกลับลงมาอย่างทุลักทุเล สูญเสียน้อย ภารกิจประสบความสาเร็จหลายคร้ง เพียงแต่
้
ี
เล่ามาถึงตอนน คนฟังอดไม่ได้ท่จะต้งคาถามว่า ไม่ค่อยมีข่าวออกมามากนัก
ี
ั
�
ึ
ในคืนสุดท้ายก่อนถึงวันออกตีเปิดศึกกับทหารเวียดนาม ในฐานะท่เป็นนาวิกโยธินคนหน่ง พ่ยืนยันว่าการฝึก
ี
ี
คนที่เป็นผู้บังคับกองร้อยคิดอะไรอยู่ในใจ อย่างเข้มข้นสมจริงแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงแต่ก็คุ้มค่า เพราะ
ี
ั
พลเรือตรี ธนกาญจน์ ตอบว่า ทหารจะมีขวัญกาลังใจด ม่นใจในตนเองสูง มีความฮึกเหิม
�
“พ่คิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องทาให้เสร็จจะได้ ถึงขั้นมีความกระหายที่อยากจะออกปฏิบัติการโดยเร็ว
�
ี
กลับบ้าน... เสร็จเร็วกลับบ้านเร็ว... คิดอยู่แค่น้น แต่แค่คิด พลเรือตรี ธนกาญจน์ ใคร่ครวญ เล่าถึงเหตุการณ์
ั
ื
คนเดียวไม่พอ มันต้องบอกกับคนอ่น ๆ ต้องปลุกใจทหาร ในศึกบ้านช�ารากต่อไปว่า
ที่จะออกรบกับเราด้วย” “ก่อนขนรถออกจากท่รวมพล ผู้พันก็เรียกประชุม
ี
้
ึ
ี
พ่จึงประกาศกับลูกน้องว่า เราจะลุยเข้าไปยึด ทุกคน ผู้บังคับกองร้อยเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อกล่าวย�้าหน้าที่ของ
เช่อผู้กองให้ทาตามท่ผู้กองส่ง ผู้กองนาทุกคนได้ แต่ละคนและอวยพรให้ภารกิจสาเร็จลุล่วงกลับลงมาได้
�
ื
ี
�
ั
�
ั
ึ
ผู้กองมีประสบการณ์ เคยลุยมาแล้ว ไม่ต้องกลัวมัน อย่างปลอดภัย จากน้นทหารทุกคนพร้อมอาวุธก็ข้นรถ
ึ
็
ี
ุ
ั
ี
ตอนน้นพ่อาย ๒๙ พลทหารท่เกณฑ์เข้ามาก ๒๐ กว่า บรรทุกยีเอ็มซี. แล่นไปยังเชิงเขาซ่งถนนไปสุดอยู่แค่น้น
ั
ี
ี
ั
พันจ่าในกองร้อยก็แก่หน่อย ส่วนจ่าก็มีทั้งจ่าหนุ่ม จ่าแก่ ระหว่างทางท่รถแล่นไปพ่ส่งให้ทหารร้องเพลงปลุกใจ
คละเคล้ากันไป เพื่อความฮึกเหิมโดยพี่ร้องน�าด้วยตนเอง”
ต้องยอมรับความจริงว่าเรารบตามสภาพ ตาม
ี
ี
ี
ทรัพยากรท่ม ใช้ขีดความสามารถเท่าท่เคยฝึกกันมา ไม่ม ี
ื
ี
เวลาเตรียมตัวล่วงหน้าเพ่อภารกิจน้โดยเฉพาะ ไม่เหมือน
ุ
ิ
ั
ทหารอเมรกนจะบกอรกต้องไปฝึกรบแบบทเรยกว่า
ิ
ั
ี
่
ี
อูบาร์น วอร์แฟร์ ต้องสร้างเมืองจ�าลอง ฝึกซ�้าแล้วซ�้าอีก
ให้ท�าได้โดยอัตโนมัติ
ั
แต่ของเราไม่ใช่แบบน้น เพราะกองทัพเราค่อนข้างจน
ไม่ร�่ารวยเหมือนกองทัพมหาอ�านาจ กระสุนซ้อมในเวลา
ั
น้นก็มีจากัด เพราะยุคน้นกระสุนซ้อมแพงกว่ากระสุน
�
ั
จริง จึงต้องยอมรับว่าความสมจริงในการฝึกจึงเกิดได้ยาก
ี
่
ทหารไมคุนกับเสียงปืนเสียงระเบิด ซึ่งมีผลโดยตรง ทหารเวียดนามเหนือบนรถถังในวันท่เข้ายึดไซง่อนเมืองหลวงเวียดนามใต ้
้
นาวิกศาสตร์ 58
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔

