Page 14 - นาวิกศาสตร์ มกราคม ๒๕๖๕
P. 14
ื
�
และกองทหารส่อสาร กองทัพบก สาหรับทหารนาวิกโยธิน
ี
ี
ั
ท้งหมด มีท่ตั้งท่สัตหีบ จังหวัดชลบุร และกรุงเทพมหานคร
ี
�
ื
การเคล่อนทัพของนาวิกโยธินไปประจาการรบ ต้องกระทา �
ด้วยการลาเลียงทางเรือจากท่ต้งสัตหีบ และกรุงเทพมหานคร
ี
ั
�
ี
ี
กองพลนาวิกโยธินจันทบุร (กองพลจันทบุรี) ม นาวาตร ี
�
ื
ี
ทองหล่อ (ต่อมาเปล่ยนช่อเป็นทหาร) ขาหิรัญ
(นักเรียนนายเรือ หมายเลข ๒๘๓ รุ่น พ.ศ. ๒๔๖๑)
เป็นผู้บัญชาการกองพล
พลเรือตรี หลวงสินธุสงครามชัย ผู้บัญชาการทหารเรือ
และแม่ทัพเรือ ท่านเป็นเจ้าภาพงานมงคลสมรสของบิดา มารดา
ผู้เขียนที่ราชนาวิกสภา เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ และเมื่อ เรือหลวงช้าง (ล�าที่ ๑) เป็นเรือล�าเลียง ประจ�าการตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๔๗
ี
ึ
�
พ.ศ. ๒๕๑๗ บิดาเคยพาไปไหว้ท่านท่วัดเครือวัลย์ หลังสาเร็จการศึกษา ถง พ.ศ. ๒๕๐๕ ต่อจากสก๊อตแลนด์ เคร่องยนต์ม ๓ สูบ ม ๔ ชอ
ี
่
ื
ื
ี
คือ เดิมชื่อจ�าเริญ --->บุ๊ก--->วิเทศกิจการ-->ช้าง ในสงครามอินโดจีน
�
เป็นเรือหลักในการลาเลียงนาวิกโยธินและทหารอากาศไปสถาปนา
ื
กาลังท่จันทบุร และป้อนเช้อเพลิงเคร่องบินให้ทหารอากาศ หลังการรบ
ี
ี
ื
�
�
ี
๑๗ มกราคม ๒๔๘๔ เป็นเรือลาแรกท่เข้าไปช่วยเหลือดับไฟ
บนเรือหลวงธนบุรี และจูงเรือหลวงธนบุรีมาเกยตื้นที่แหลมงอบ
การลาเลียงทหารแห่งกองพันท ๑ ๒ และ ๓
่
ี
�
นาวิกโยธิน จากกรุงเทพมหานครและสัตหีบ ไปสถาปนา
ก�าลังรบที่จันทบุรีและตราด เริ่มตั้งแต่วันที่ ๓ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๔๘๓ ไปสิ้นสุดในวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔
่
�
ี
รวม ๗ เท่ยว โดยเรือหลวงอ่างทอง (ลาท ๑ คือ
ี
่
ั
ี
ี
ี
ั
ี
�
เรือพระที่น่งจักร ลาท ๒ ท่ปลดจากเรือพระท่น่งแล้ว)
�
่
�
่
ี
เรือหลวงช้าง (ลาท ๑) เรือหลวงเจ้าพระยา (ลาท ๑)
ี
เรือหลวงพงัน (ล�าที่ ๑) และเรือหลวงคราม (ล�าที่ ๑)
ตลอดเดือนพฤศจิกายน ๒๔๘๓ ฝร่งเศสได้
ั
ื
เคล่อนพล และยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดตลอดชายแดนไทย
ื
และมีการส่งเคร่องบินมาลาดตระเวนตรวจการณ์
ั
่
ี
่
ื
นาวาตรี ทองหล่อ (ทหาร) ข�าหิรัญ อย่างต่อเนอง โดยวนท ๒๗-๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๓
ผู้บัญชาการกองพลจันทบุรี บินเข้ามาถ่ายภาพ และท้งระเบิดพ้นท่จังหวัดนครพนม
ื
ิ
ี
เมื่อ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ เหล่าทหารนาวิกโยธิน อินทรธนูไม่มี
่
ี
“หูกระทะ” หูกระทะแบบอังกฤษจึงเป็นเครื่องหมายนักรบในทะเล วันท ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๓ บินเข้ามาตรวจการณ์
นาวิกศาสตร์ 12
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕

