Page 18 - นาวิกศาสตร์ มกราคม ๒๕๖๕
P. 18
ั
การตกลงใจทางการเมืองของฝร่งเศสในการตอบโต้ไทย และกาลังพลประจาเรือไทยท้งหมดมีจานวน ๒,๓๐๐ คน
ั
�
�
�
ในวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ เมื่อ พลเรือโท ส่วนฝรั่งเศสมีก�าลังพลแค่ ๙๕๐ คน ส�าหรับเรือรบไทย
ั
�
ฌ็อง เดอกูซ์ (Jean Decoux) ข้าหลวงใหญ่ฝร่งเศส ท้งหมดฝร่งเศสพิจารณาแล้วเห็นว่าเกือบทุกลาเป็นเรือ
ั
ั
�
�
ั
่
ิ
ั
ี
ประจาอินโดจีนได้ประจักษ์ชัดว่า กองทัพไทยกาลัง ทใหม่และทนสมัยมาก เพราะเพงเข้าประจาการต้งแต่
�
่
ี
ี
ทาการรบเพ่อรุกเข้ามายึดครองดินแดนท่เคยเสียไป พ.ศ. ๒๔๗๘-๒๔๘๑ โดยเฉพาะเรือหลวงธนบุร และ
ื
�
ั
ในอินโดจีนกลับมาคืนให้ได้ เพ่อท่จะสามารถหยุดย้ง เรือหลวงศรีอยุธยาน้น ฝร่งเศสจัดเป็นเรือรบประเภท
ั
ี
ื
ั
ความก้าวร้าวของไทยนี้ได้ จึงจ�าเป็นที่จะต้องตีแสกหน้า “เรือประจัญบานรักษาฝั่ง” garde-côte cuirassé
พลเรือโท เดอกูซ์ (Decoux) ข้าหลวงใหญ่อินโดจีนฝรั่งเศส ต�าแหน่งเทียบเกือบเท่าประธานาธิบดีอินโดจีนฝรั่งเศส
(ลาว เขมร และญวน ซึ่งยอมสวามิภักดิ์เป็นปึกแผ่นกับฝรั่งเศสที่อ้างว่าเป็นผู้คุ้มครอง (protector) ประชาชนลาว เขมร และญวณ
ให้รอดพ้นจากภัยของกองทัพสยามที่เคยมีพฤติกรรมในการไปปราบฮ่อ พ.ศ. ๒๔๓๐)
ประเทศไทย โดยการมอบภารกิจ “ค้นหา และท�าลาย ในภาษาฝรั่งเศส หรือเท่ากับ coast guard battleship
กองเรือสยาม (Rechercher et détruire les forces ทีเดียว ปืนใหญ่ก็มีขนาดใหญ่ถึง ๘ นิ้ว (๒๐๓ มิลลิเมตร)
ั
navales de siamoises) ต้งแต่สัตหีบจนถึงพรมแดน ถึง ๒ ป้อม ๔ กระบอก ใหญ่กว่าปืนของเรือรบฝรั่งเศส
�
ั
ี
ั
ั
ั
กัมพูชา” ส้น ๆ และง่าย ๆ แต่เป็นวลีท่แสดงถึงผลสาเร็จ ท้งหมด อินโดจีนฝร่งเศสน้น แม้จะมีเรือธงเป็นเรือ
ี
�
ี
(term of accomplishment) ให้แก่ พลเรือตร จูล แตโร้ ลาดตระเวนเบาขนาดใหญ่ ระวางขับนาเต็มท ๙,๓๕๐ ตัน
่
้
(Jules Terraux) ผู้บัญชาการทหารเรืออินโดจีนฝรั่งเศส แต่ก็เป็นเรือเก่า ต่อเสร็จตั้งแต่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๙
(ลาว เขมร และญวน) และ นาวาเอก เรจีส์ เบรองเช่ และมีอยู่ลาเดียว ท่เหลือก็เป็นเรือสัพเพเหระหลากหลาย
ี
�
(Régis Bérenger) ผู้บังคับการเรือลาดตระเวนเบา ประเภทเข้ามาประสมประสานกันเป็นกองทัพเรือจับฉ่าย
ลามอตต์ปิเกต์ (La Motte-Picquet) (hétéroclité) เพ่อเป็นการเตรียมการ กองทัพเรือ
ื
ั
ั
จากรายงานการรบของ นาวาเอก เรจีส์ เบรองเช่ ฝร่งเศสอินโดจีนได้จัดต้ง “กลุ่มเรือปฏิบัติการตามโอกาส
�
ู
์
�
้
ั
ั
ิ
ื
ั
ผบงคบการเรอลามอตต์ปเกตกระทาขนภายหลง ปรากฏวา (groupe occasionnel)” ไว้สาหรับเผชิญหน้าและ
้
่
ึ
ฝร่งเศสเห็นว่าไทยมีกาลังรบทางเรือเหนือกว่ากาลังรบ ปฏิบัติภารกิจตามท่จะได้รับมอบหมายให้ดาเนินการ
ั
�
ี
�
�
่
ี
ทางเรืออินโดจีนฝร่งเศส โดยเม่อคิดระวางขับนาของ กับกาลังรบทางเรือสยาม ต้งแต่วันท ๑๙ พฤศจิกายน
ั
ั
ื
�
้
�
เรือรบไทยท้งหมดจะมีระวางขับนารวมกันถึง ๑๖,๖๐๐ ตัน พ.ศ. ๒๔๘๓ ประกอบด้วยเรือรบ ๕ ล�า คือ
้
ั
�
มากกว่าเรือรบฝรั่งเศสที่มีรวมกันแล้วแค่ ๑๒,๕๐๐ ตัน
นาวิกศาสตร์ 16
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕

