Page 49 - นาวิกศาสตร์ มกราคม ๒๕๖๕
P. 49
๒. เรือหลวงธนบุรี อาการหนัก
เรือหลวงธนบุรี ในขณะนี้ได้แล่นหมุนเป็นวงกว้างอยู่ถึง ๔ รอบ เมื่อใช้เครื่องถือท้ายอะไหล่ได้แล้ว จึงได้กลับ
็
ิ
ี
ั
ั
ี
แล่นไปในทศทางเดิมตามความต้องการ แต่กระน้นกด การท่จะบงคบเรือให้อยู่ในทศทางตามต้องการกไม่สู้
ั
ิ
็
�
ื
ั
จะทาได้คล่องแคล่วนก เรือต้องแล่นส่ายไปส่ายมาเพราะการบังคับเรอยาก การกระทาของนายเรือโท เฉลิม
�
�
�
�
ทาให้ เรือหลวงธนบุรี รอดพ้นจากการตกเป็นเป้าปืนใหญ่ของข้าศึกแต่ฝ่ายเดียว และทาให้ เรือหลวงธนบุรี ทาการรบกับข้าศึก
ที่มีจ�านวนมากกว่า และมีอาวุธที่เหนือกว่า
๕
ั
เรือหลวงธนบุรี ต้องทาการรบกับเรือรบฝร่งเศส ๔ ลา เป็นการสู้รบแบบ ๔ ต่อ ๑ เรือหลวงธนบุรี มิได้สะทกสะท้าน
�
�
ั
ั
ต่อสู้อย่างทรหด แม้ว่าจะถูกยิงหนักจากเรือรบฝร่งเศสท้ง ๔ ลา และโดนระเบิดจากเคร่องบินเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้
�
ื
้
�
ท่วไปบริเวณกลางลา และนาเข้าเรือจนแปล้นา เรือลามอตต์ปิเกต์ก็ถูก เรือหลวงธนบุรี ยิงจนบอบชาหมดสภาพ
้
�
้
�
ั
�
จึงต้องล่าถอยไปในที่สุด
�
ื
เม่อเรือข้าศึกได้ล่าถอยไปแล้ว เรือหลวงธนบุรี กาลังไฟไหม้อยู่ เรือหลวงช้าง จึงได้เข้าไปทาการช่วยเหลือ โดยเข้าเทียบ
�
�
ั
เรือหลวงธนบุรีทางกราบขวา และได้ช่วยกันดับไฟ แต่ไม่ได้ผลมากนัก เรือหลวงช้าง จึงเข้าทาการจูง เรือหลวงธนบุรี ซ่งขณะน้น
ึ
ี
�
�
้
ึ
มีอาการหนัก มีนาเข้าเรือมาก เรือเอียงทางกราบขวามากข้น มีสภาพอย่างหมดหนทางท่จะทาการแก้ไข จึงให้
เรือหลวงช้าง จูงไปจนถึงหน้าแหลมงอบเพื่อเกยตื้น
เม่อเวลา ๑๑๐๐ นายเรือเอก ทองอยู่ สว่างเนตร (พลเรือโท ทแกล้ว สว่างเนตร) ต้นเรือ เรือหลวงธนบุรี
ื
๖
ี
ซ่งทาการแทนผู้บังคับการเรือส่งสละเรือใหญ่ ธงราชนาวียังคงอยู่ท่เสากาฟจนวาระสุดท้าย แต่แล้วก็ตกลงมา
ั
�
ึ
โดยไฟไหม้เชือกขาด ทหารประจาเรือได้ปฏิบัติตามคาส่ง จาเป็นต้องจาก เรือหลวงธนบุรี ท่รัก ทหารทุกคนเปล่งเสียง
�
�
ี
�
ั
ั
้
�
�
�
ี
ไชโยพร้อม ๆ กัน ๓ คร้ง เป็นการอาลาเรือท่รัก และทาความเคารพผู้บังคับการเรือ พร้อมด้วยหยาดนาตา
ไหลลงสู่ใบหน้า
ึ
้
ื
ิ
ึ
เวลา ๑๖๔๐ เรือหลวงธนบุรี ซ่งเกยต้นอยู่น้น ได้เร่มตะแคงทางกราบขวามากข้นทุกที กราบขวาเร่มจมนา
ั
ิ
�
๗
จนกราบตักน�้า เสาทั้งสองเอนลงน�้า กราบซ้ายและกระดูกงูกันโคลง โผล่อยู่พ้นน�้า
๓. ทหารเรือเขารบกันอย่างนี้
* “ทหารสองคนถูกไฟไหม้ทั้งตัว เนื้อแดง ดิ้นจนขาดใจตาย”
* “บางคนแขนหักที่ปลายทั้งสองข้าง ห้อยรุ่งริ่ง ดูน่าเวทนาเป็นที่สุด”
ี
* “ทหารนายหนงถูกอ�านาจระเบด และสะเกดกระสน ไฟลวกตวดาเกรยม ปลายแขน และปลายขาขาด
็
ั
ุ
ึ
่
ิ
�
นอนตายอยู่ในท่าโก้งโค้ง”
* “ทหารคนหนึ่งถูกอ�านาจระเบิดตัวขาด ๒ ท่อน อีกคนหนึ่งขาขาดเป็น ๓ ท่อน ตายคาที่ทั้ง ๒ คน”
ุ
ึ
�
�
ึ
ี
ั
�
* “พลฯ ชน ซ่งมีหน้าท่ลาเลียงกระสนอยู่ในห้องลาเลียงกระสนข้างล่าง กาลังไต่บนไดข้นมายังห้องปืนข้างบน
ุ
ุ
ี
ื
แขนขวาของ พลฯ ชุน หักห้อยร่องแร่งใต้ข้อศอกลงไป ตอนท่หักติดอยู่ด้วยหนังกาพร้า เห็นเน้อตอนท่ขาด
�
ี
แดงเหมือนเนื้อหมู แต่ พลฯ ชุน ก็ใจเด็ดท�าการเลื่อนกระสุนต่อไปด้วยมือซ้ายที่ใช้การได้เพียงข้างเดียว”
๕. การสู้รบแบบ ๔ ต่อ ๑
๖. สละเรือใหญ่
๗. กระดูกงูกันโคลง
นาวิกศาสตร์ 47
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕

