Page 33 - นาวิกศาสตร์ ธันวาคม ๒๕๖๒
P. 33
ี
ประเทศทางทะเลฉบับแรกของกองทัพเรือท่เป็น ของกรมหลวงชุมพรฯ ได้ระบุแนวคิดกำรใช้ก�ำลังทำงเรือ
รำกฐำนในกำรพัฒนำก�ำลังทำงเรือยุคใหม่ต่อมำ เช่น และแผนกำรเสริมสร้ำงก�ำลังรบทำงเรือตำมแผน
ี
ื
ิ
ั
ุ
พระรำชบัญญัตบ�ำรงกำลังทำงเรอ พ.ศ.๒๔๗๗ โดย ป้องกันประเทศไว้ชัดเจน ท้งน้เน่องจำกพระองค์
ื
�
โครงกำรจัดสร้ำงก�ำลังทำงเรือ ร.ศ.๑๒๙ เป็นกำรพัฒนำ ทรงจบกำรศึกษำจำกโรงเรียนนำยเรืออังกฤษ แนวคิด
กองเรือใกล้ฝั่ง (Coastal Fleet) จำกกองทัพเรือ ของพระองค์จึงเป็นแนวคิดแบบนักยุทธศำสตร์ทะเล
ท่มีขีดควำมสำมำรถในลักษณะ Brown Water ท่มีควำมเหมำะสมตำมลักษณะภูมิรัฐศำสตร์ของ
ี
ี
ิ
ื
ี
ื
Navy ไปเป็นกองทัพเรือท่เร่มมีขีดควำมสำมำรถ ประเทศไทย คอ กำรมองเขตแดนทำงทะเลเป็นเสมอน
ในลักษณะ Green Water Navy ท�ำให้ได้เรือปืน แผ่นดินท่ต้องมีอ�ำนำจอธิปไตย และกำรท่ประเทศต้อง
ี
ี
เรือสลุป เรือตอร์ปิโด เรือวำงทุ่นระเบิด เรือด�ำน้ำ เรือล�ำเลียง รักษำผลประโยชน์ของชำติทำงทะเลเช่นเดียวกับ
�
ื
รวม ๒๕ ล�ำ และมีเคร่องบินลำดตระเวนทำงทะเล กำรรักษำผลประโยชน์ของชำติทำงเศรษฐกิจบนบก และ
ี
ึ
เข้ำประจ�ำกำรในปี พ.ศ.๒๔๘๑ ซ่งกองเรือน้ได้ใช้ใน ข้อเท็จจริงท่ว่ำควำมขัดแย้งระหว่ำงรัฐท่จะมีกำรใช้ก�ำลัง
ี
ี
ี
ั
ึ
ิ
กำรรบกับฝร่งเศสท่เกำะช้ำง พ.ศ.๒๔๘๔ และปฏิบัติกำร ทำงทหำรจะไม่เร่มเกิดข้นก่อนเฉพำะจำกกำรรุกล้ำ
�
ในกำรรักษำเส้นทำงคมนำคมทำงทะเลท้งด้ำนอ่ำวไทย เขตแดนทำงบกเท่ำน้น แต่ภัยคุกคำมสำมำรถเร่มจำก
ิ
ั
ั
ี
ั
ื
่
และอันดำมันในระหว่ำงสงครำมโลกคร้งท ๒ กำรส่งก�ำลัง กำรเคล่อนก�ำลังมำจำกทำงทะเลได้ด้วยเช่นกัน โดย
ทำงเรือเข้ำร่วมรบกับกองก�ำลังสหประชำชำติในสงครำม แนวควำมคิดของกรมหลวงชุมพรฯ ในกำรใช้ก�ำลังทำงเรือ
ี
่
ั
้
ื
่
ี
ี
ื
เกำหลีในปี พ.ศ.๒๔๙๓ และสงครำมเวียดนำม ต่อมำ และกำรวำงตำบลทก�ำลังตำมพนท แบ่งพ้นท่กำรป้องกน
�
สหรัฐฯ ได้ให้ควำมช่วยเหลือทำงทหำรแก่ประเทศไทย ประเทศทำงทะเลเป็น ๕ ชั้น จำกเขำสำมร้อยยอดจนถึง
�
ั
ั
้
ด้ำนอำวุธยุทโธปกรณ์ กำรให้ทุนกำรฝึก และศึกษำ สิงคโปร์ ท้งนแนวคิดในการใช้กาลังของท้งสองพระองค์
ี
ในประเทศสหรัฐฯ ทร. จึงได้น�ำวิธีการประเมินยุทธศาสตร์ เป็นการกาหนดแนวทางการใช้กาลังทางเรือตามระดับ
�
�
และการกาหนดโครงสร้างกาลังรบมำใช้ ท�ำให้กองทัพเรือ สถานการณ์ความขัดแย้ง หรือ Spectrum of Conflict
�
�
่
มีกำรจัดหำยุทโธปกรณ์โดยเฉพำะเรือรบอย่ำงเป็นระบบ ได้แก่ ในสถานการณ์ปกติถึงความขัดแย้งระดับตาจะใช้
�
ั
ี
ท่สอดคล้องกับภัยคุกคำม และสภำพแวดล้อมควำมม่นคง แนวความคิดในการป้องกันทางลึกแบบ Defense in
ึ
ี
ี
ทำงทะเลท่เปล่ยนแปลงไป ซ่งเห็นได้จำกกำรพัฒนำ Depth ในระดับความขัดแย้งระดับสูงจะใช้แนวคิด
ิ
แนวคิดโครงสร้ำงก�ำลังรบทำงเรือของกองทัพเรือจำก การป้องกันเชงรุก Active Defense และเม่อเกิด
ื
Brown Water Navy ไปเป็น Green Water Navy สงครามจากัดทางทะเลจะใช้แนวคิดการรบแบบ Decisive
�
่
ั
ี
่
ิ
ี
ี
ุ
ื
้
ี
ั
ทมขดควำมสำมำรถในกำรควบคมทะเลในเขตเศรษฐกจ Battle ทงน้เมอน�ำมำปรบใช้ตำมสภำพแวดล้อม
จ�ำเพำะ ๒๐๐ ไมล์ทะเลในปัจจุบัน และอำจจะก้ำวไปสู่ ควำมม่นคงทำงทะเล และกำรพัฒนำเทคโนโลยีสงครำม
ั
ี
ี
กำรพัฒนำ Blue Water Navy ท่มีขีดควำมสำมำรถ ทำงเรือท่เปล่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน สำมำรถปรับใช้กับ
ี
ในกำรปฏิบัติกำรในทะเลหลวงในกำรคุ้มครองผลประโยชน์ แนวควำมคิดระดับยุทธกำรตำมหลักนิยมทำงเรือของ
�
ของชำติในทะเลหลวง (High Sea) และน่ำนน้ำสำกล กองทัพเรือ สรุปได้ดังนี้ คือ
ในอนำคต แนวคิดการป้องกันทางลึก (Defense in Depth)
ข้อเสนอในการปรับปรุงแผนการป้องกันประเทศ ตำมหลักนิยมทำงทะเลของกองทัพเรือ (อทร.๘๐๐๑)
ู
่
ิ
ทางทะเลจำกผลกำรศึกษำโครงกำรจัดสร้ำงก�ำลังทำงเรือ ได้แก่ กำรปฏเสธกำรใช้ทะเลเพอต่อต้ำนกำรถกปิดอ่ำว
ื
ร.ศ.๑๒๙ และควำมเห็นเกี่ยวกับเรือ ส. มีดังนี้ ระยะไกล กำรคุ้มครองเส้นทำงคมนำคมทำงทะเล และ
�
๑. โครงการจัดสร้างกาลังทางเรือ ร.ศ.๑๒๙ กำรป้องกันท่หมำยส�ำคัญในทะเลและชำยฝั่งท่ทหำรเรือ
ี
ี
นาวิกศาสตร์ 31
ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒

