Page 7 - การค้าระหว่างประเทศ
P. 7
11.4 ข้อดีของกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
ข้อดี คือ
1.ท าให้ประเทศสามารถจ าหน่ายผลผลิตส่วนเกินจากการบริโภคภายในประเทศสู่ผู้บริโภคในประเทศอื่น ท าให้
เกิดรายได้เข้าประเทศและส่งผลต่อมาตรฐานการครองชีพที่ดีของประชาชน
2.ท าให้ได้รู้จักผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ ท าให้ประชาชนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอ านวย
ความสะดวกสบายเหล่านั้น ซึ่งถ้าไม่มีการน าเข้าจากต่างประเทศประชาชนจะเสียโอกาสไป
3.ท าให้เกิดการพัฒนาของผู้ผลิตภายในประเทศต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งมีผลต่อความ
เจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองทั้งโดยทางตรงและโดยทางอ้อม
4.ท าให้ประชาชนได้ใช้สินค้าคุณภาพดีในราคาถูก กล่าวคือแต่ละประเทศอาจไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทุกชนิด
เนื่องจากความช านาญของแต่ละประเทศในการผลิตสินค้าแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน บางประเทศอาจผลิตสินค้าหนึ่ง
ได้ดีและต้นทุนต่ า ส่วนอีกประเทศอาจผลิตสินค้าชนิดอื่นได้ดีและต้นทุนต่ า การที่ทั้งสองประเทศจะเลือกผลิตสินค้า
ที่ตนมีความช านาญและมีการขายหรือแลกเปลี่ยนกันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศมากกว่า
11.5 นโยบำยกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
นโยบายการค้าระหว่างประเทศ คือ นโยบายที่แต่ละประเทศใช้ในการน าสินค้าเข้า และส่งสินค้าออก ซึ่งอาจแบ่ง
ออกได้เป็น นโยบายแบบเสรี และ นโยบายแบบคุ้มกัน
นโยบำยกำรค้ำแบบเสรี
เป็นนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ น าสินค้ามาท าการค้าขายระหว่างกันอย่าง เสรี โดยปราศจากข้อจ ากัด
ใดๆ ประเทศที่จะถือนโยบายการค้าโดยเสรีจะต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี้
1. ต้องด าเนินการผลิตตามหลักการแบ่งงาน คือ ทุกประเภทจะต้องเลือกผลิตเฉพาะที่มีประสิทธิภาพการผลิตสูง
2. ต้องไม่มีการเก็บภาษี หรือมีการเก็บภาษีแต่น้อย โดยไม่มีจุดมุ่งหมายให้เกิดความ ได้เปรียบเสียเปรียบ
3. ต้องไม่มีการให้สิทธิพิเศษและไม่มีข้อจ ากัดทางการค้ากับประเทศต่าง ๆ หากถือตามเงื่อนไขนี้แล้วในปัจจุบันไม่มี
ประเทศใดที่จะมีนโยบายการค้าโดยเสรีได้ อย่างเป็นทางการเพราะนโยบายลักษณะนี้ประเทศที่ก าลังพัฒนาจะ
เสียเปรียบประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นอย่างมาก แต่บาง ประเทศมีการตกลงร่วมกันอยู่บ้าง เช่น กลุ่มสหภาพยุโรป
เป็นต้น

