Page 68 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ม.ปลาย
P. 68

58



                                                                                                        
                                   ื่
                                                                     
                                                                       ั
                  ในลักษณะใหม เมอสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแหงองกฤษทรงแตงตั้งเซอรจอหน เบาวริง
                    
                                                                            ํ
                  เปนอัครราชทตผูมอานาจเต็มเชิญพระราชสาสนมาเจรจาทาสนธสัญญาทางไมตรีกบสยาม
                                     ํ
                                    ี
                               ู
                                                                                 ิ
                                                                                                   ั
                  ใน พ.ศ. 2398 พระองคทรงตอนรับอยางสมเกียรติ และโปรดเกลาฯ ให เซอรจอหน เบาวริง เขาเฝา
                             ั
                                                           
                  เพื่อเจรจากนเปนการภายในแบบมตรภาพกอน ซึ่งเปนทประทบใจของอครราชทตอังกฤษมาก
                                
                                                  ิ
                                                                    
                                                                                     ั
                                                                            ั
                                                                       ี่
                                                                                              ู
                  การเจรจาเปนทางการใชเวลาไมนานก็ประสบความสําเร็จ องกฤษและสยามไดลงนามใน
                                                  
                              
                                                                              ั
                                                                                      
                                                                                               ั
                                                       ั
                                                           ี่
                                                  ั
                      ิ
                  สนธสัญญาไมตรีและพาณิชยตอกนในวนท 18 เมษายน พ.ศ. 2398 เปนที่รูจักกนในนามวา
                  สนธิสัญญาเบาวริง


                  ที่มา :  https://www.napoleon.org/wp-content/thumbnails/uploads/2002/03/454871_1-tt-width-500-height-
                  247-crop-1-bgcolor-ffffff-lazyload-0.jpg
                                                                                  
                                 พระองคทรงวางรากฐานในการยอมรับความเจริญกาวหนาแบบอารยประเทศ
                                                                                   
                                                                                     
                  มาใชในสยาม เชน การรับชาวตางประเทศเขามารับราชการดวยการใหเปนลาม เปนผูแปลตํารา
                                                                                              
                  เปนครูหัดทหารบกและโปลิศ ซึ่งโปรดใหจัดตั้งขึ้นตามแบบยุโรป นอกจากกิจการดังกลาวแลว ยังม ี
                                                                                                      ั
                  งานสมัยใหมเกิดขึ้นอีกมาก เชน การสํารวจทําแผนที่ชายแดนพระอาณาเขต การตั้งโรงพิมพอกษร
                                     ั
                  ในพระบรมมหาราชวง เพื่อพิมพหนังสือราชกิจจานุเบกษา เผยแพรกฎหมาย คําสั่ง ขาวราชการ
                  ตาง ๆ สรางโรงกษาปณสิทธิการ (ปจจุบันเปนกรมธนารักษ) เพื่อใชทาเงนเหรียญแทนเงินพดดวง
                                                                                   ิ
                                                                                ํ
                     ั
                                      ุ
                                               ี้
                                                                                            ี่
                  ใชอฐทองแดงและดีบกแทนเบยหอย จัดตั้งศุลกสถาน (กรมศุลกากร) สถานทเก็บภาษีอากร
                  มีถนนสําหรับใชรถมา เกิดตึกแถวและอาคารแบบฝรั่ง โรงสีไฟ โรงเลื่อยจักร ฯลฯ
                                                                                       ิ่
                                                    ํ
                                                                          
                                                ํ
                                 นอกจากนี้ทรงทานุบารุงพระพุทธศาสนาใหเจริญรุงเรืองยงขึ้น ทรงกอตั้งคณะ
                                                                                                 
                                                                    ี่
                  ธรรมยุติกนิกาย ทรงบูรณะและปฏิสังขรณพระอารามทสรางคางในรัชกาลกอนใหลุลวงเรียบรอย
                                                                                            
                                                                                       
                  ที่สําคัญยิ่ง คือ ไดทรงปฏิสังขรณพระปฐมเจดียเปนงานใหญ
                                 ดานการศึกษา พระองคทรงตระหนักถึงความสําคัญของการศึกษาวาเปนรากฐาน
                                                                                                 
                  สําคัญในการพัฒนาบานเมืองใหทันสมัยแบบตะวันตก จึงทรงริเริ่มสนับสนุนการศึกษาภาษาองกฤษ
                                                                                                     ั
                                                                                     ี
                                                                                                       
                  และวิทยาการสมัยใหมของโลกตะวันตก โดยเฉพาะดานดาราศาสตร ทรงมพระอัจฉริยภาพเปนท           ี่
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73