Page 39 - 6. thai 31001
P. 39

30


                           3.4  แนวคิดของเรื่อง  แนวคิดของเรื่องสวนมากผูเขียนจะไมบอกตรง ๆ  ผูอานจะตอง
                                             ั
                  คนหาเองวาไดแนวคิดอยางไร ตวอยางเชน เรื่องลูกชายของศรีบูรพา ตองการแสดงวา “ลูกผูชายนั้น
                                                                              
                  มีความหมายอยางไร”  จดหมายจากเมืองไทยของโบตั๋นตองการใหเห็นขอดีขอเสียของคนไทย
                  โดยเฉพาะ “น้ําใจ” ซึ่งไมเหมือนกันกับชาติอื่น เปนตน

                           นวนิยายหรือเรื่องสั้นที่ดีนั้น  ผูอานตองพิจารณาคุณคาที่จะไดจากเรื่องนั้น ๆ  ไมทางใด

                  ก็ทางหนึ่งดวย
                           3.5  สํานวนภาษา เปนสิ่งสําคัญมากอยางหนึ่ง ในการพิจารณาเลือกอานนวนิยายและ

                                                         
                    ่
                           
                  เรืองสั้นผูอานมักจะรูสกวาตนเองชอบหรือไมชอบสํานวนของนักเขียนคนนั้นคนนี้  แตบางคนกไม
                                      ึ
                                                                                                    ็
                                                     ิ
                  สามารถบอกวาเพราะเหตุใด สิ่งที่ควรพจารณาเกียวกับสํานวนภาษาคือสํานวนภาษาของตัวละคร
                                                             ่
                  ในบทสนทนา ตองสมจริงและเหมาะสมกับตัวละคร ประโยคที่แตกตางควรกะทัดรัด สละสลวย เขาใจงาย
                  หากเปนประโยคยาวก็ควรเปนสํานวนที่สามารถสรางอารมณ และความรูสึกไดดี
                         4.  วารสารและหนังสือพิมพ  หนังสือประเภทนี้คนทั่วไปไดอานบอยกวาหนังสือประเภทอื่น ๆ
                  ในการผลิตหนังสือประเภทนี้ตองแขงกับเวลา ดงนั้น โดยการพิจารณาหนังสือประเภทนี้ควรพิจารณา
                                                          ั
                  ดังนี้
                           หนงสือพิมพ  หนังสือพิมพเปนเครื่องมือสื่อสารที่จะกระจายขาวคราวเหตุการณตาง ๆ
                               ั
                  ไปทั่วประเทศหรืออาจทั่วโลก โดยเฉพาะหนังสือพิมพรายวัน เปนเครื่องมือสื่อสารที่เสนอขาวที่นาสนใจ
                  ที่เกิดขึ้นในแตละวัน ดังนั้นหัวใจของหนังสือพิมพรายวันก็คือ “ขาว” การพิจารณาหนังสือพิมพรายวัน
                                                                       
                  จึงควรพิจารณาเกี่ยวกับขาววามีสวนในการชวยยกระดับสังคมใหสูงขึ้นหรือมีประโยชนตอชนหมูมาก

                  หรือไม หากขาวนั้นไมเกี่ยวกับความเปนอยูของคนหมูมาก หรือกระทบกระเทือนตอประชาชนสวนใหญ
                  เหตุการณเหลานั้นก็ไมควรนํามาเสนอในหนาหนังสือพิมพ  ขาวที่ควรนําเสนอควรเปนขาวที่เกี่ยวกับ

                  การปกครอง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การอนามัย การประกอบอาชีพ ฯลฯ

                         เหตุการณที่ไมสมควรนํามาเสนอเปนขาวอีกอยางหนึ่งก็คือ เหตุการณที่อาจจะสงผลทําลาย
                  ความมั่นคงของชาติ หรือทําลายวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงาม

                         บทวิจารณ ในหนังสือพิมพรายวันทุกฉบับจะมีบทวิจารณ หรือบทวิเคราะหขาว ซึ่งเปนลักษณะ

                  บทความ  แสดงความคิดเห็นของผูเขียนเอง  ประกอบกับขาวที่ตองการวิจารณ  หรือวิเคราะหนั้น
                  การพิจารณาบทวิจารณในหนังสือพิมพ ควรพิจารณาถึงลักษณะตอไปนี้

                         1.  พิจารณาขอมูลที่ผูเขียนอางอิงวาถูกตองและมีขอเท็จจริงเพียงใด
                         2.  พิจารณาวาผูเขียนบทความนั้น ชี้ใหเห็นปญหาและวิธีแกปญหาอยางไร

                         3.  พิจารณาวาผูเขียนบทวิจารณใชอารมณ และนําความรูสึกสวนตัวเขาไปเกี่ยวของหรือไม

                         4.  พิจารณาภาษาที่ใชวามีความประณีตและถูกตองตามหลักภาษาเพียงใด
                         วารสาร  เปนหนังสือพิมพจําหนายตามกําหนดระยะเวลา  เชน  7  วัน  10  วัน  รายเดือน

                  ราย 3 เดือน หรือรายป เปนตน หนังสือวารสารจึงมีเนื้อหาเนนทั้งสารคดี และบันเทิงคดี ขาวสารที่
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44