Page 5 - บรรทัดฐาน(ทฤษฎี)
P. 5
1. ศาสนา
ศาสนา หมายถึง กฎข้อบังคับหรือคำสอนที่ได้กำหนดไว้เพื่อให้มนุษย์
ประพฤติในทางที่ควรค่าแห่งคุณงามความดี ศาสนาเป็นคำสอนของศาสดาที่
สอนให้เป็นคนดีละเว้นความชั่วและเป็นเรื่องของความเชื่อ ซึ่งข้อบังคับหรือคำ
สอนอาจไม่สามารถจะบัญญัติเป็นกฎหมายได้ เช่น คำสั่งสอนให้รักเพื่อน
มนุษย์ด้วยกัน ศาสนาย่อมกำหนดข้อห้ามจิตใจของมนุษย์ เช่น ห้ามมิให้มนุษย์
คิดร้ายต่อผู้อื่น หากบุคคลใดฝ่าฝืนคำสอนของศาสนา จะไม่ถูกลงโทษในภพนี้
แต่จะทำให้เกิดความความรู้สึกว่าจะถูกลงโทษในภพหน้าหรือชาติหน้า ซึ่งทุก
ศาสนาล้วนแต่มีหลักธรรมคำสอนที่คอยควบคุมความประพฤติของมนุษย์ให้
อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยการปฏิบัติตนเป็นคนดี ละเว้นไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น
จะเห็นได้ว่าศาสนาเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกันในการควบคุมความประพฤติของ
มนุษย์ แต่กฎหมายจะบังคับกับสิ่งที่มนุษย์มีการกระทำหรืองดเว้นการกระทำตามที่
กฎหมายกำหนด หากไม่มีการกระทำโดยการแสดงออกซึ่งเจตนาในจิตใจ ย่อมไม่
ถือว่าผิดกฎหมาย เช่น การคิดร้ายต่อผู้อื่น แต่ไม่ได้ลงมือทำความผิดต่อผู้ที่ตนคิดจะ
ทำร้าย ย่อมไม่มีความผิดตามกฎหมาย แต่ศาสนาย่อมกำหนดห้ามภายในจิตใจด้วย
โดยมีหลักธรรมคำสอนตั้งแต่ห้ามมิให้มีจิตคิดอคติ อาฆาตพยาบาทผู้อื่น แม้ยังไม่
ลงมือทำ ศาสนาก็ห้ามเอาไว้แล้วว่าอย่าคิดเพราะตนเองนั้นเองที่จะเป็นทุกข์ (สมยศ
เชื้อไทย. 2552 : 39) รวมทั้งในทางกฎหมายนั้น ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนก็จะมีสภาพบังคับ
(Sanction) เกิดขึ้นทันที เช่น ถ้าฆ่าคนตายก็จะถูกจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
เป็นต้น ส่วนทางด้านศาสนานั้นไม่มีสภาพบังคับไว้แน่นอน แต่หากผู้ใดฝ่าฝืนข้อ
บังคับทางศาสนามักจะถูกสังคมที่นับถือศาสนานั้นๆ รังเกียจไม่คบหาสมาคมด้วย
หรือเชื่อว่าจะได้รับผลกรรมในชาติหน้าซึ่งเป็นเรื่องความเชื่อทางศาสนาในเรื่อง
สังสารวัตร คือการเวียนว่ายตายเกิด

