Page 45 - สามัคคีเภทคำฉันท์
P. 45

คณคาวรรณคดี
             ุ
                ่

  ๑. ดานวรรณศิลป 
           ็
    ๕.  การหลากคํากวีจําเปนตองรูจักคํามากเพือหลีกเลี่ยงการใชคําซํากันทําใหผูอาน
                          ้
                  ่
      ็
  เห็นความเปนอัจฉริยะของกวี เชน
            “ขุนคอคชคุมกุมอัง       กุสกรายทายยัง    ขุนควาญประจําดํารี”
        ้
  และ     “ขุนคชขึนคชชินชาญ     คุมพลคชสาร       ละตัวกําแหงแข็งขัน”
  คําวา คช ดํารีและคชสาร หมายถึงชางทั้งสิ้น
    ๖.  การเพิ่มสัมผัสคําประพันธไทยนยมสัมผัสมากแมวาฉันทจะเปนคําประพันธที่
                ิ
                          ็
                           ่
          ่
  ไทยรับมาจากอินเดียซึงแตเดิมไมมีสัมผัสเราก็เพิ่มสัมผัสนอกเขาไปเพือใหไพเราะ
        ้
        ี
  ยิ่งขึนนอกจากนยังเพิ่มครุ ลหุเขาไปในกาพยสุรางคนางค ๒๘ ทําใหเกิดลีลาคึกคัก
    ้
         ่
  เหมาะสมกับทองเรือง เชน ตอนบรรยายการจัดกองทัพของพระเจาอชาตศัตรู
           
     “สะพรึบสะพรั่ง ณหนาและหลัง  ณซายและขวา ละหมูละหมวด  ก็ตรวจก็ตรา
                            ประมวลกะมา       สิมากประมาณ”
             
    ๗.  การใชโวหารภาพพจนคือถอยคําที่กวีเรียบเรียงอยางใชโวหารไมกลาวอยาง
  ตรงไปตรงมาเพราะตองการใหผูอานมีสวนรวมในการคิดเขาใจและรูสึกอยางลึกซึง ้
  ตามผูแตงไปดวยโวหารภาพพจนในสามัคคีเภทคําฉันทมีหลายตอน เชน
              
                     ํ
   ๗.๑ การเปรียบเทียบแบบอุปมาอุปไมย ไดแก การนาของสองสิ่งที่มีลักษณะคลาย
                         ึ
                          ็
                             ่
                         ่
  กันมาเปรียบเทียบกันโดยมีคําวา ดุจ เหมือน คลาย ปานประหนง เปนคําเชือมสิ่งที่
   ํ
  นามาเปรียบเทียบเรียกวาอุปมาสิ่งที่รับเปรียบเทียบเรียกวาอุปไมย เชน
  ตอนพระเจาอชาตศัตรูกริ้ววัสสการพราหมณ 

                ๔๑
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49