Page 62 - book.sakeao62
P. 62

เอกสารโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาจังหวัดสระแก้ว :

                                                             การส่งเสริมสมรรถนะและทักษะสําคัญในศตวรรษที่ 21 หน้า 43


                                   การแก้ปัญหาแบบร่วมมือ (Collaborative Problem Solving)

                                                                                       อาจารย์ชวลิต ศรีคํา*
                                                                                                        1
                            การแก้ปัญหาแบบร่วมมือแบ่งออกเป็น 2 องค์ประกอบใหญ่ ๆ คือ องค์ประกอบด้านความรู้
                       (Cognitive competencies) และองค์ประกอบด้านสังคม (Social competencies) ซึ่งมีความหมายดังนี้

                            การแก้ปัญหาแบบร่วมมือ หมายถึง วิธีการแก้ปัญหาที่มีการโต้ตอบกันด้วยการทํางานร่วมกันและ

                       แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน (Hesse, et al. 2012: 2 – 3) โดยผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ ตกลงที่จะ
                       ทํางานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาหรือความกังวล (Lee. 2008: 3) และเป็นทักษะที่สําคัญสําหรับการเรียน

                       และการเตรียมความพร้อมสําหรับการประกอบอาชีพ ซึ่งการแก้ปัญหาแบบร่วมมือเป็นความสามารถ
                       ของแต่ละบุคคลที่มีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพในกระบวนการกลุ่มที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปพยายาม

                       ที่จะแก้ปัญหาด้วยการแลกเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจผ่านการจัดระบบการทํางานกลุ่มและการ
                       ตรวจสอบความคืบหน้า การดําเนินการแก้ปัญหา และให้ข้อมูลย้อนกลับที่เป็นประโยชน์ให้กับกลุ่ม

                       (Rosen and Tager. 2013: 2 – 4) โดยนําผลประโยชน์ที่ต้องการเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการคิดเพื่อหาทาง
                       ออกมากกว่าการประนีประนอมกับทุกฝ่าย ซึ่งการแก้ปัญหามีวิธีการและทางออกมากกว่าหนึ่งทางที่
                       สามารถนําทุกฝ่ายไปสู่จุดที่พอใจ และได้รับผลประโยชน์สูงสุด (สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.

                       2560: 1) ดังนั้น สมรรถนะการแก้ปัญหาแบบร่วมมือ จึงหมายถึง ความสามารถของบุคคลในการเข้าร่วม
                       กระบวนการแก้ปัญหาของกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแบ่งปันความเข้าใจที่มีและรวบรวมความรู้

                       ทักษะ และความพยายามเข้าด้วยกันเพื่อแก้ปัญหา (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
                       (สสวท.). 2558: 12)

                            สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (2560 : 6 – 7) ให้ทัศนะว่ามีปัจจัยหลักสองประการที่ส่งผล

                       ต่อการเกิดสมรรถนะในการแก้ปัญหาแบบร่วมมือ ได้แก่ พื้นฐานของนักเรียน และทักษะที่นักเรียนมี

                               -  พื้นฐานของนักเรียน ประกอบด้วย

                                  1.  ความรู้ที่ติดตัวนักเรียนมา ได้แก่ ความรู้ด้านคณิตศาสตร์ การอ่านและการเขียน

                       วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และการเรียนรู้ในชีวิตประจําวัน

                                  2.  บุคลิกลักษณะของนักเรียน ได้แก่ อารมณ์และเจตคติ ประสบการณ์และความรู้

                       แรงจูงใจ และความสามารถทางการคิด







                       * อาจารย์ประจํากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67