Page 125 - สอนสนุก สร้างสุข สไตล์สาธิตปทุมวัน เล่ม 3
P. 125

สอนสนุก สร้างสุข สไตล์สาธิต (ปทุมวัน) เล่ม 3  123


               หาข่าวอ่าน ติดตามข่าวเยอะ ๆ รู้ใว้ใช่ว่า คือ รู้ไว้เฉย ๆ เช่น ดารา x คบกับ
               ดารา y หรือ นาย a ชอบกินส้มตำ เอาไว้คุยสนุก ๆ สรุปว่า เป็นครูนั้น

               ควรจะรู้ลึก และ กว้าง เมื่อรู้ลึกและกว้างทำให้การถ่ายทอดสนุก
               ซึ่งครูไม่ต้องรู้ไปหมดทุกเรื่อง แต่สิ่งที่เรารู้นอกเนื้อจากสิ่งต้องรู้
               นั้น คือ ของแถมเอาไว้คุยสนุก ๆ ความรู้เป็นของกลาง ใครเดิน
               เข้ามาคว้าคนนั้นรู้เอง และการรู้ลึกแต่ไม่กว้างนั้น ทำให้การสอนล้มเหลว


                           2. คาย หมายถึง การมีศิลปะในการคายความรู้คายสติ
               ปัญญาที่แหลมคม ซึ่งก่อนเราจะคายได้นั้น ต้องกลืนด้วยตัวเองเสียก่อน
               การคายมีระบบดังนี้ ค้นคว้า>เคี้ยว>กลืน>คาย ค้นคว้า คือ อ่าน
               ให้มากค้นหาคำตอบให้มาก ไม่มีคนโง่ในโลกนี้ เพียงแค่เขายัง
               ค้นคว้ามาไม่มากพอ หรือค้นไม่เป็น เอาแต่ขยะข้อมูล ปฏิกูลข่าวสาร

               มาใส่หัวเต็ม ๆ โดยไม่กรอง ได้มาอย่างไร ก็ยกมาอย่างนั้น เคี้ยว คือ
               เมื่อเราได้ข้อมูลมาแล้วก็ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา กลืน คือ
               เมื่อวิเคราะห์แล้วนำผลที่ได้มาคิดและเก็บไว้ คาย คือการมีศิลปะ
               ในการคาย เลือกคายในเวลาอันเหมาะสม สรุปได้ว่า ก่อนจะไป

               ถ่ายทอดความรู้ให้ใครได้นั้น ครูต้องรู้จักค้นคว้าหาความรู้และ
               วิเคราะห์เนื้อหาข้อมูลที่เรามีเสียก่อน ค้นมากรู้มาก ค้นสาระได้สาระ
               และเลือกเวลาอันเหมาะสมในการถ่ายทอดความรู้


               	           3. รสให้เย็น คือ เย็นด้วยเมตตา เมตตาต่อศิษย์
               สอนและรักเหมือนลูก เมื่อเห็นศิษย์โง่ให้เมตตาเขา ถือว่านี่คือ
               ความท้าทายความเป็นครูที่จะสอนให้เขาพัฒนา เมื่อเห็นศิษย์ฉลาด
               ให้ยินดี ว่าเรานี่แหละ สอนให้ลูกศิษย์เก่งอย่าไปหาเรื่องกลั่นแกล้งเขา
               เมื่อเห็นศิษย์สวยหน้าตาดี ให้คิดว่าเราโชคดีที่มีลูกศิษย์สวยหน้าตาดี

               เราจะไม่เกิดอกุศลทางจิต
   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130