Page 401 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น ประจำปี 2563 เล่มที่ 1
P. 401
396
ิ
้
การศึกษาผลของการตดเชื อโรคอื่นซ าซ้อนต่อเชื อไฟโตพลาสมาโรคใบขาวของออยในสภาพไร่
Effect of mixed infections in sugarcane preinfected with white leaf disease
phytoplasma in field condition
1
ศุจิรัตน์ สงวนรังศิริกุล วีรกรณ์ แสงไสย วสันต์ สิงค์ค า จีรนันท์ วนชะเอม จุฑามาศ สอนเมือง
ั
1
1
์
1
1
1
แตงไท ภิญโญ รววรรณ เชื้อกิตติศักด ภาคภูมิ ถิ่นค า และปิยะรัตน์ จังพล
1
1
ี
ิ์
1
บทคัดย่อ
่
ื้
การส ารวจเชื้อสาเหตุโรคในอ้อยในสภาพไร่เพื่อการทดสอบผลของการติดเชื้อโรคอื่นซ้ าซ้อนตอเชอ
ไฟโตพลาสมาโรคใบขาวของอ้อยมีการทาการส ารวจทั้งสิ้นจานวน 9 ครั้ง โดยเชื้อที่ส ารวจได้ทั้งหมด 4 ชนิด
เป็นเชื้อราบนใบ ซึ่งอาจไม่มีผลต่อเชื้อไฟโตพลาสมาซึ่งอยู่ในท่ออาหารของพืช การทดลองปลูกเชื้อราสาเหต ุ
โรคเส้นกลางใบแดงบนใบของต้นอ้อยที่มีเชื้อไฟโตพลาสมา แม้เชื้อสามารถเข้าทาลายเนื้อเยื่อได้ แต่ไม่มีการ
ั
ี่
ั
ี่
้
ขยายขนาด การเก็บตวอย่างอ้อยทมีลกษณะอาการทพบไดแก่ ก้านใบแดง,ใบขีดแดง,ใบแถบเหลองและ
ื
กลางใบเหลือง จากการน าแบคทีเรียที่เพาะแยกเชื้อได้ มาทดสอบจ านวน 20 ไอโซเลต พบว่าเป็นแบคทีเรีย
ี
ู
แกรมลบ จานวน 18 ไอโซเลต และแบคทเรียแกรมบวก 2 ไอโซเลต ผลการทดลองปลกเชอทสารวจได ้
ื้
ี่
จานวน 20 ชนิดในตนอ้อยทมีเชอใบขาวซ้ า 2 ครั้ง พบว่าตนอ้อยยังไม่แสดงอาการของโรคทเดนชดรุนแรง
ี่
ื้
ั
้
่
้
ี่
ุ
้
ทดสอบการปลูกเชื้อแบคทเรียสาเหตโรคอ้อย 5 ไอโซเลตโดยใชต้นอ้อยจานวน 72 ต้น พันธุ์ : TPJO4-768
ี
อายุ 2 เดือน ท าการปลูกเชื้อโดยการฉีดใสล าต้นอ้อยบันทึกผลทุก 1 สัปดาห์หลังการปลูกเชื้อเป็นระยะเวลา
่
1 เดือนจากนั้นน าการปลูกเชอซ้ าอีกสองรอบ พบว่าเชื้อทั้ง 5 isolates สามารถเพิ่มระดับความรุนแรงไดถึง
้
ื้
้
ื้
ี่
ั
ั
ู
ื้
ระดบ 2 และเริ่มแสดงอาการตงแตสปดาห์ท 1 หลงการปลกเชอ การปลกเชอในกลมตนทมีอาการใบขาว
ู
ุ่
่
ั้
ี่
ั
พบว่า isolate 4 และ 5 ซึ่งเป็นกลุ่มโคโลนีสีเหลือง มีต้นที่แสดงอาการใบขาวลดลง การปลูกเชื้อกลุ่มโคโลนี
้
สีเหลืองที่เพาะแยกได้จากใบที่มีอาการคลายใบลวก 5 ไอโซเลต ในต้นกล้าพันธุ์ขอนแก่น 3 ที่มีการติดโรคใบ
่
ขาวจานวน 60 ตน มีปริมาณเชอใบขาวก่อนปลกเชอพบปริมาณเชอตงแต <0.5- 10 copy/ul in 25 ng
ื้
ู
ั้
้
ื้
ื้
plant DNA ด้วยวิธีตัดใบ พบว่าเชื้อที่ปลูกมีการเข้าท าลายมากขึ้นในสัปดาห์ที่ 4 พบว่า isolate A และ B มี
ความรุนแรงกว่าอีก 3 isolates โดยสามารถทาลายเนื้อเยื่อใบอ้อยไดถึงระดบท 7 สวน isolate C, D และ
่
้
ี่
ั
E ทาลายไดถึงระดบ 5 ผลการตรวจเชอโรคใบขาวในตนททดสอบพบว่าในกลมควบคม มีเชออยู่ในระดบ
ุ
ุ่
้
ื้
ี่
ื้
้
ั
ั
ู
ุ่
ี
่
น้อยกว่า 10 copies/ul ในดเอ็นเอพืช 25 นาโนกรัม ท 4 สปดาห์หลงการปลก สวนกลมทดสอบทพบว่ามี
ั
ี่
ั
ี่
ี่
ุ่
้
ุ่
่
ปริมาณเชอใบขาวเพิ่มขี้น ไดแก่ กลม A, C และ E แตกลมททดสอบกับ isolate B และ D มีแนวโน้มของ
ื้
ื้
ื้
ื้
ั
ั้
ี่
่
เชอลดลงหรือคงตว ทงนี้อาจเกิดจากผลของเชอทมีตอการเพิ่มปริมาณของเชอใบขาวหรือการเกิดเชอ
ื้
ซ้ าซ้อนของทงสองเชอทาให้พืชแสดงอาการใบขาวไดมากขึ้น ผลการทดลองนี้แสดงพบว่าเชอกลมโคโลนีส ี
ั้
ุ่
้
ื้
ื้
เหลืองที่ได้จากการเพาะแยกจากใบที่มีอาการคลายใบลวกอาจมีผลต่อการลดลงของเชื้อโรคใบขาวอ้อย การ
้
ทดลองในตัวอย่างที่มีจ านวนมากขึ้นจะท าให้ได้ผลที่ชัดเจนขึ้น
1 ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน อ าเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

