Page 31 - เล่ม 8 ชุมชนท่องเที่ยววัฒนธรรมลาวครั่ง วัดหนองกระดูกเนื้อ
P. 31

ี
                                                   ึ
 พระสงฆ์จะเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ง่ายและครอบคลุมเช่นเดียวกับ  พระ อสว. เพราะไม่ได้เป็นผู้รักษาพยาบาล ซ่งเป็นหน้าท่ของโรงพยาบาล
 ประชาชนทั่วไป     และสถานบริการสาธารณสุข
                                                ิ
                                                                        ั
                                                   ุ
                            ุ
 อย่างไรก็ตามจากการอบรมพระคิลานุปัฏฐากมาแล้ว 3 รุ่น ยังคงมี  พระมหาสภค วรโช มองว่าพระคลานปัฏฐากมข้อดเมอเทยบกบ
                                 ิ
                             ั
                                                                 ่
                                                                    ี
                                                                 ื
                                                           ี
                                                               ี
 ิ
 ึ
 ็
 �
 ้
                                                                   ่
                                                                   �
 ี
 ั
 ่
 ประเดนคาถามเกดขนว่า ระยะเวลาในการอบรม 70 ชวโมงจะเพยงพอ   อสม. คือคุณสมบัติของพระคิลานุปัฏฐากจะต้องบวชมาแล้วไม่ตากว่า 1
 ี
 ต่อการปฏิบัติหน้าท่พระคิลานุปัฏฐากหรือไม่ ผลการศึกษาพบว่าเจ้าหน้าท ่ ี  พรรษา ซึ่งท�าให้พระคิลานุปัฏฐากมีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมมากกว่า
                                          �
 ี
 ี
                                                      ื
                ั
 สาธารณสุขไม่กังวลเก่ยวกับการปฏิบัติหน้าท่ของพระคิลานุปัฏฐาก เพราะ  คนท่วไป พระคิลานุปัฏฐากสามารถนาหลักธรรมเพ่อดูแลพระภิกษุอาพาธได้
                     ี
 มองว่าการรักษาโรคใด ๆ ก็ตามจะมีระดับการปฏิบัติอยู่ หากเกินกว่าระดับ  ประเด็นน้คือข้อได้เปรียบของพระสงฆ์ดูแลพระสงฆ์ด้วยกันเอง พระคิลาน ุ
                                                     ึ
 ที่พระคิลานุปัฏฐากจะกระท�าได้ก็มีขั้นตอนการส่งต่อมายังโรงพยาบาล โดย  ปัฏฐากอาจดูแลผู้ป่วยอาการท่ซับซ้อนได้ไม่ดีนัก ซ่งไม่ใช่ปัญหาในการปฏิบัต ิ
                                     ี
                             ั
                 ่
                 ี
 ื
                    ื
                    ่
                                                 ู
                                       ้
 เจ้าหน้าท่สาธารณสุขมองว่าพระคิลานุปัฏฐากเม่อผ่านการอบรมแล้ว จะม ี  หน้าท เนองด้วยโรคซบซ้อนยังคงตองใช้ความร้ความสามารถและประสบการณ์
 ี
                                                �
                                                                ื
 ความรู้และความสามารถท่เพียงพอจะช่วยส่งเสริมสุขภาพของพระสงฆ์   รวมถึงเคร่องมือท่ทันสมัยเพ่อป้องกันและบาบัดรักษา เช่น เคร่องวัดความ
 ี
                                   ื
                           ี
                     ื
                              ้
                                                                 ื
 มากกว่าการเข้าไปช่วยรักษาอาการป่วย ซึ่งไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของพระคิลา   ดัน เคร่องวัดระดับนาตาลในกระแสเลือด เป็นต้น แต่เพียงมีเคร่องมือก็ยัง
                              �
                   ื
 ี
 นุปัฏฐาก ความเส่ยงสาคัญอยู่ท่การประเมินอาการ เพราะเป็นจุดเร่มต้นของ  ไม่อาจวินิจฉัยอาการได้ เพราะจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในโรคนั้น ๆ โดย
 ิ
 �
 ี
 การช่วยตัดสินใจทางการแพทย์ เช่นเดียวกับการคัดกรองอาการคนไข้   เฉพาะอย่างย่งในเร่องการสังเกตอาการ หากไม่สามารถจาแนกอาการได้แล้ว
                                                          �
                            ื
                       ิ
 ั
 นอกจากน้นยังมีความเห็นว่าต้องให้ความรู้ด้านโภชนาการกับพระคิลาน  ุ  อาจท�าให้พระภิกษุอาพาธขาดโอกาสรับการดูแลรักษาที่ถูกต้องต่อไป
                     ้
                     ั
                                                                      ุ
                       ี
                       ้
                                                               ุ
                                                            ิ
 ี
                                         ุ
 ปัฏฐากอย่างเข้มข้น เพราะโภชนาการคือจุดเร่มต้นของโรคภัยท่พบได้บ่อย  ทงนบทบาทของพระคลานปัฏฐากในการสร้างเสรมสขภาวะชมชน
 ิ
                                      ิ
 ในพระสงฆ์ เช่น โรคอ้วน อันจะท�าให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น เบาหวาน   บ้านหนองกระดูกเน้อและการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ท่ถูกต้องตามหลักพระ
                                                        ี
                             ื
 ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น รวมถึงแนวคิดการต่อยอดเพื่อเพิ่มความ  ธรรมวินัย ประกอบด้วย
                         ็
 รู้ความสามารถและเพ่มประสิทธิภาพของพระคิลานุปัฏฐาก ซ่งจะทาได้หลาย  1)  เปนแกนน�ำจัดกิจกรรมวัดส่งเสริมสุขภาพและแก้ไขปัญหา
 ิ
 �
 ึ
 ทาง ได้แก่ การอบรมในเรื่องการดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยสูงอายุ เนื่องจาก  สุขภาพภายในวัดและชุมชน โดยชักชวนพระสงฆ์สามเณร ผู้น�าชุมชน อสม.
 สังคมไทยกาลังเปล่ยนผ่านไปยังสังคมผู้สูงอายุ ทาให้มีจานวนผู้สูงอาย  ุ  และชาวบ้าน มาร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและกาหนดเป้าหมาย ร่วมกันจัด
 �
                                                   �
 ี
 �
 �
 ิ
 ึ
 ื
 เพ่มข้นอย่างต่อเน่อง สนับสนุนให้พระสงฆ์เป็นส่วนหน่งของการบูรณาการ  กิจกรรมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเป็นวัดส่งเสริมสุขภาพร่วมกัน โดยม ี
 ึ
 ั
 กิจกรรมด้านสุขภาพต้งแต่ในระดับจังหวัดจนถึงระดับชุมชน จึงอาจสรุป   พระมหาสุภัค วิรโช เป็นผู้น�าทีมร่วมกันปฏิบัติภารกิจของพระคิลานุปัฏฐาก
 ้
 ่
 �
 ื
 ี
 ่
 ี
 ้
 ั
 �
 ั
 ได้ว่าเนอหาการอบรมจานวน 70 ชวโมงนนเพยงพอต่อการทาหน้าทของ   ในจังหวัดนครสวรรค์ให้เกิดผลส�าเร็จ
 ั
 ี
 28  ชุมชนท่องเท่ยววัฒนธรรม ลาวคร่ง วัดหนองกระดูกเน้อ ื  พินิจ ลาภธนานนท์ และ พระมหาสุภัค วิรโช  29
 การมีส่วนร่วมและพึ่งตนเองของชุมชน
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36