Page 61 - เล่ม 8 ชุมชนท่องเที่ยววัฒนธรรมลาวครั่ง วัดหนองกระดูกเนื้อ
P. 61
ิ
ั
ี
ั
ิ
ึ
และมัดหม่ โดยใช้ท้งฝ้ายและไหมเป็นองค์ประกอบ ตัวซ่นนิยมทอด้วยเส้น โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ซ่งปรากฏในส่งทอของกลุ่มลาวคร่งก็คือนิยมใช้โครง
ไหมใช้กรรมวิธีมัดหม่เส้นพุ่งเป็นลวดลายด้วยการย้อมสีเดียว และใช้วิธีการ สีวรรณะร้อน เช่น สีแดงเป็นโครงสีหลัก โครงสร้างของผ้าจะแบ่งออกได้เป็น
ี
�
แต้มสีอื่น ๆ เพิ่มเติม หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “แจะ” เป็นการใช้ไม้จุ่มสีมา 3 ส่วน คือ หัวซิ่น ตัวซิ่น และตีนซิ่น ผ้าลาวครั่งเมื่อนามาท�าเป็นผ้าซิ่นความ
แต่งแต้มบนเส้นหม่ เป็นการให้ลวดลายหม่ท่มีสีสันเพ่มข้น ถือเป็นเสน่ห์แบบ สาคัญจะอยู่ท่ “ตีนซ่น” ซ่งในอดีตตีนซ่นต้องเป็นสีแดงเท่าน้น ซ่งคนโบราณ
ึ
ี
ิ
ิ
�
ึ
ี
ี
ี
ั
ึ
ิ
ื
ี
ั
ี
ึ
ด้งเดิมอีกแบบหน่งของมัดหม่ลาวคร่งจากฝีมือของช่างทอในชุมชนบ้านหนอง ใช้สีแทนสัญลักษณ์ถึงท่มาของบรรพบุรุษ สีแดงส่อความหมายแทน “ดวง
ั
ื
ิ
ั
ิ
ิ
ื
ั
ิ
กระดูกเน้อ ผ้าซ่นลาวคร่งมักต่อตีนซ่นด้วยฝ้ายหรือไหม ตีนซ่นตอนบน อาทิตย์” เน่องจากบรรพบุรุษอพยพมาจากทิศตะวันออก ผ้าซ่นลาวคร่งม ี
ตกแต่งด้วยการจกลวดลาย และตีนซิ่นตอนล่างปล่อยเว้นให้เป็นผืนผ้าสีแดง การใช้สีหลัก ๆ อยู่ 5 ส ได้แก่ สีแดง สีดา สขาว สเหลือง และสีเขียว ลวดลาย
ี
�
ี
ี
ี
ั
ี
ถือเป็นเอกลักษณ์ท่โดดเด่นของชาวลาวคร่งจนถึงปัจจุบัน สีท่ใช้เป็นสีท่ได้ บนผืนผ้าบ่งบอกถึงความเชื่อและการบอกเล่าเรื่องราวในอดีต กลุ่มลวดลาย
ี
ี
ื
้
ื
�
ี
�
จากธรรมชาติ เช่น สีเหลืองจากมะพูดหรือใบหูกวาง สีนาตาลจากหมากหรือ ท่เกิดจากความเช่อท่ปรากฏอยู่ในนิทานพ้นบ้านหรือตานาน เช่น ลายนาค
ประดู่ สีเทาจากประดู่ย้อมโคลน สีครามได้มาจากต้นครามผสมกับปูนกิน หรืองูใหญ่ ลายหงส์ ลายหงส์คู่ ลายสิงห์ ลายม้า ลายช้าง ลายตัวมอมหรือ
่
ี
์
์
็
้
ี
ิ
ิ
้
ั
่
่
หมาก สีแดงได้มาจากครั่ง ลวดลายบนผืนผ้าของชาวลาวครั่งส่วนใหญ่จะมา คชสห ผาทอลาวครงใชเวลาในการทอคอนขางนาน เปนผลตภณฑทเกดจาก
ั
้
จากสิ่งของใกล้ตัวที่ใช้ในวิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมความเชื่อ เช่น ลายนาค ลาย การรังสรรค์ของช่างทอผ้า เป็นการสืบสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่ได้รับ
ั
ม้า ลายขอ ลายดอกแก้ว เป็นต้น ลายที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ลายโบราณ การถ่ายทอดจากบรรพบุรุษมาเป็นเวลาหลายช่วอายุคน แสดงให้เห็นถึง
ี
ิ
ี
ี
ลายหม่ลวด และลายหม่ตาผ้าซ่นตีนจก ท่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของชาว อัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ท่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นความภาคภูมิใจ
ี
ลาวครั่ง เช่น ซิ่นก่าน ซิ่นหมี่ ซิ่นหมี่ตา ซิ่นหมี่น้อย เป็นซิ่นที่ใช้เทคนิคการ ของชุมชนบ้านหนองกระดูกเนื้อ
มัดหมี่เป็นลวดลายแถบเล็ก ๆ สลับด้วยฝ้ายหรือไหมพื้นสีต่าง ๆ ลักษณะที่
ั
ี
58 ชุมชนท่องเท่ยววัฒนธรรม ลาวคร่ง วัดหนองกระดูกเน้อ ื พินิจ ลาภธนานนท์ และ พระมหาสุภัค วิรโช 59
การมีส่วนร่วมและพึ่งตนเองของชุมชน

