Page 13 - เล่ม 9 พระไม่ทิ้งโยม วัดสุทธิวราราม
P. 13
ของ อรศรี งามวิทยาพงศ์ และคณะ (2560) ที่น่าสนใจอาจสามารถแบ่งได้
เป็น 2 ประการส�าคัญดังนี้
ี
ี
ื
1) การฟื้นฟูสัปปายะด้านกายภาพ วัดท่อยู่ในพ้นท่เมือง หรือ
ื
ื
ี
ื
ึ
ี
ี
พ้นท่ก่งเมืองก่งชนบทส่วนใหญ่มีพ้นท่ทางกายภาพท่มีความเส่อมโทรม
ึ
และมีศาสนสถานท่ชารดอยู่ในหลายแห่ง สภาพทางกายภาพจึงเป็นความ
�
ุ
ี
ี
ื
�
ี
สาคัญลาดับแรกในการท่จะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาสู่พ้นท่ ความพยายาม
�
ดังกล่าวได้ปรากฏผ่านการปรับปรุงส่งก่อสร้างของวัดท่เป็นพ้นท่ศึกษา
ิ
ี
ี
ื
ี
ั
้
ื
ุ
ั
ในทกแห่ง อย่างไรก็ตามในแต่ละพนท่กบมีโจทย์การฟื้นฟูสปปายะด้าน
ี
กายภาพท่แตกต่างกันออกไปตามบริบทความสัมพันธ์ทางสังคมของคนใน
ี
พ้นท่ เช่น วัดนางชี การฟื้นฟูทางด้านกายภาพต้องเผชิญกับปัญหา “บ้านในวัด”
ื
ี
ื
ซ่งเป็นการซ้อนทับระหว่างพ้นท่ของพระสงฆ์กับพ้นท่ใช้สอยของฆราวาส
ื
ึ
ี
�
�
ั
ื
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจาเป็นต้องอาศัยกลไกสาคญคอความร่วมมือและการ
ั
แก้ปัญหาด้วยสันติวิธีเพ่อให้ได้ประโยชน์ท้งชุมชนและวัด เป็นต้น นอกจากน ี ้
ื
กระบวนการฟื้นฟูสัปปายะด้านกายภาพจะต้องอาศัยการระดมทุนจาก
�
�
ผู้มีจิตศรัทธาเป็นจานวนมากแต่ก็สามารถสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยบทบาท
ี
ื
ิ
เชิงเก้อกูลระหว่างชุมชน ผู้มีจิตศรัทธา และวัด ขณะท่การปรับปรุงส่งแวดล้อม
�
ภายในวัดนับเป็นส่วนสาคัญในการดึงดูดญาติโยมให้เข้ามาเรียนรู้ธรรมและ
ั
จัดทากิจกรรมทางศาสนาได้อย่างร่มร่นเช่นกัน ดังน้น การฟื้นฟูสัปปายะ
�
ื
�
ด้านกายภาพ จึงเป็นเสมือนด่านแรกในการฟื้นวัด คืนธรรม และนาเมือง
ี
ื
ื
�
โดยท่วัดดาเนินบทบาทของตัวเองเช่อมโยงกับชุมชนรอบข้างเพ่อความ
เอื้อเฟื้อและพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ี
2) การฟื้นฟูสัปปายะด้านศาสนบุคคล การเปล่ยนแปลงความ
เช่อของผู้คนในสังคมสมัยใหม่ได้นามาสู่ความท้าทายของพระพุทธศาสนา
�
ื
ี
�
ี
ในการเผยแพร่หลักธรรมคาสอน การหลีกเล่ยงพุทธพาณิชย์ท่เป็นผลให้
ี
เกิดการเบ่ยงเบนศาสนาออกจากบทบาททางธรรม พระสงฆ์จึงจาเป็นต้อง
�
ี
ปรับเปล่ยนความรู้ความสามารถให้สอดคล้องกับธรรมท่ทันยุคสมัย รวมไป
ี
สายชล ปญญชิต และพระสุธีรัตนบัณฑิต ¤ 11
ั

