Page 626 - รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
P. 626
จ�ำเลยขำดนัดยื่นค�ำให้กำร
ระหว่ำงพิจำรณำ ศำลแพ่งเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีนี้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำ
ของศำลแรงงำนหรือไม่ จึงส่งส�ำนวนให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษวินิจฉัยตำม
พระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแรงงำนและวิธีพิจำรณำคดีแรงงำน พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ ๙ วรรคสอง
วินิจฉัยว่ำ โจทก์ฟ้องว่ำ จ�ำเลยท�ำหนังสือสัญญำสนับสนุนกำรเสริมสร้ำงคุณวุฒ ิ
ื
รับทุนกำรศึกษำจำกโจทก์เพ่อเป็นค่ำใช้จ่ำยในกำรศึกษำเป็นนักศึกษำคณะพยำบำลศำสตร์
ุ
ั
ั
ึ
ิ
ั
ั
ิ
ี
ิ
ี
่
มหำวทยำลยชินวตร เป็นระยะเวลำ ๓ ปี นับแต่วนท ๑ มถนำยน ๒๕๕๙ ถงวนท่ ๑ มถุนำยน ๒๕๖๒
เป็นเงิน ๓๐๖,๘๐๐ บำท ตกลงว่ำเม่อส�ำเร็จกำรศึกษำแล้วจ�ำเลยจะเข้ำปฏิบัติงำนกับโจทก์
ื
เป็นเวลำไม่น้อยกว่ำ ๘ ปี นับแต่วันท่ส�ำเร็จกำรศึกษำโดยหำกท�ำงำนไม่ครบตำมสัญญำหรือ
ี
�
ต้องพ้นสภำพจำกกำรเป็นพนักงำนของโจทก์ก่อนครบก�ำหนดเวลำดังกล่ำว จำเลยจะต้อง
ชดใช้ค่ำเสียหำย ๙๒๐,๔๐๐ บำท แก่โจทก์ ต่อมำเม่อจ�ำเลยส�ำเร็จกำรศึกษำแล้วได้เข้ำปฏิบัต ิ
ื
ิ
ิ
งำนกบโจทก์แต่ผลกำรปฏบตงำนของจำเลยไม่เป็นไปตำมมำตรฐำน โจทก์จึงเลกจ้ำงจำเลย
�
ิ
ั
ั
�
เพรำะเหตุท่ไม่ผ่ำนกำรทดลองงำน จ�ำเลยจึงต้องชดใช้เงินค่ำเสียหำยแก่โจทก์ จึงผิดสัญญำ
ี
ตำมหนังสือสัญญำสนับสนุนกำรเสริมสร้ำงคุณวุฒิดังกล่ำว ดังนี้ แม้ว่ำจ�ำเลยจะท�ำสัญญำรับทุน
กำรศึกษำตำมหนังสือสัญญำสนับสนุนกำรเสริมสร้ำงคุณวุฒิ เอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๓
ในระหว่ำงท่จ�ำเลยยังมิได้มีฐำนะเป็นลูกจ้ำงของโจทก์ตำมสัญญำจ้ำงแรงงำน แต่ตำมข้อสัญญำ
ี
ดังกล่ำว ข้อ ๖ ระบุให้จ�ำเลยในฐำนะผู้รับทุนจะต้องปฏิบัติงำนให้โจทก์ นับต้งแต่วันท่ส�ำเร็จ
ี
ั
ื
ึ
กำรศึกษำเป็นเวลำ ๘ ปี ซ่งต่อมำเม่อจ�ำเลยส�ำเร็จกำรศึกษำแล้วก็ได้เข้ำปฏิบัติงำนในฐำนะ
ลูกจ้ำงของโจทก์ โดยโจทก์และจ�ำเลยยังคงมีสิทธิและหน้ำที่ที่ต้องปฏิบัติตำมข้อตกลงในหนังสือ
ั
สัญญำสนับสนุนกำรเสริมสร้ำงคุณวุฒิ เอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๓ ดังกล่ำวต่อไป ดังน้น
ข้อตกลงในหนังสือสัญญำสนับสนุนกำรเสริมสร้ำงคุณวุฒิ เอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๓
ี
ั
จึงไม่ได้มีเพียงข้อตกลงในส่วนของกำรรับทุนกำรศึกษำเท่ำน้น แต่ยังมีส่วนท่ให้มีผลบังคับกับ
์
ั
ิ
้
ั
ิ
�
�
์
้
็
่
โจทกและจำเลยใหตองปฏบตตอกนภำยหลงจำกจำเลยเขำปฏบตงำนกบโจทกจงถอเปนสวนหนง
่
ึ
้
ั
ื
ึ
ั
ั
ิ
่
ิ
ั
ของสัญญำจ้ำงแรงงำนด้วย ท้งตำมข้อสัญญำข้อ ๑๒ ยังก�ำหนดให้หำกโจทก์ในฐำนะผู้รับทุน
ึ
ประพฤติผิดสัญญำน้แม้ข้อหน่งข้อใดให้ถือว่ำโจทก์ประพฤติผิดสัญญำจ้ำงแรงงำนระหว่ำง
ี
โจทก์กับจ�ำเลยอีกด้วย ตำมค�ำฟ้องโจทก์จึงเป็นกำรกล่ำวอ้ำงถึงนิติสัมพันธ์ระหว่ำงโจทก์กับ
�
ั
ุ
จำเลยตำมสญญำจ้ำงแรงงำนเพอใช้สทธเรยกร้องเงนตำมหนงสอสญญำสนบสนนกำรเสรม
ั
ิ
ื
ั
ิ
ั
ี
ิ
ื
ิ
่
สร้ำงคุณวุฒิ เอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๓ อันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญำจ้ำงแรงงำนจำกจ�ำเลย
598

