Page 147 - physics6
P. 147
134 บทที่ 20 | ฟิสิกส์นิวเคลียร์และฟิสิกส์อนุภาค ฟิสิกส์ เล่ม 6 ฟิสิกส์ เล่ม 6 135
แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 7 ของหัวข้อ 20.2 ตามหนังสือเรียน
ู
ั
ี
ำ
ู
ี
ครูนาเข้าส่หัวข้อ 20.2.2 โดยอภิปรายทบทวนความร้เก่ยวกับการค้นพบกัมมันตภาพรังส จากน้น
ครูตั้งคำาถามให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันว่า รังสีที่แผ่ออกมาจากธาตุและไอโซโทปกัมมันตรังสีแตกต่างจาก
รังสีที่นักเรียนเคยได้เรียนรู้มาหรือไม่ อย่างไร และ รังสีที่แผ่ออกมาจากธาตุกัมมันตรังสี มีรังสีชนิดใดบ้าง
โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่คาดหวังคำาตอบที่ถูกต้อง
ี
ี
ู
ครูทบทวนความร้เดิมของนักเรียนเก่ยวกับรังสีแคโทด โดยการต้งคาถามเก่ยวกับการเบนของรังส ี
ั
ำ
ี
ี
่
ั
แคโทดและอนุภาคมีประจุไฟฟ้าในสนามแม่เหล็ก จากท่ได้เรียนมาในบทท 15 จากน้น ให้นักเรียนศึกษา
ี
ื
ี
ี
ผลการศึกษาการเบนของรังสีท่แผ่ออกมาจากธาตุและไอโซโทปกัมมันตรังส เม่อให้ผ่านเข้าไปในบริเวณท่มี
ำ
ำ
สนามแม่เหล็ก ดังรูป 20.7 ในหนังสือเรียน แล้วอาจใช้คาถามชวนคิดให้นักเรียนอภิปรายเพ่อหาคาตอบ
ื
ร่วมกัน
แนวคำาตอบชวนคิด
จากแนวการเบนของรังสีในรูป 20.7 สามารถสรุปได้ว่ามีรังสีแตกต่างกันอย่างน้อยกี่ชนิด และ รังสี
แต่ละชนิดมีสมบัติแตกต่างกันอย่างไร
แนวคำาตอบ จากความเข้าใจเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าในสนามแม่เหล็ก การ
เบนของรังสีในสนามแม่เหล็ก 3 แนว สามารถวิเคราะห์ได้ว่า รังสีมีประจุไฟฟ้าแตกต่างกัน 3 ชนิด ซึ่ง
ประกอบไปด้วยรังสีที่มีประจุไฟฟ้าบวก ประจุไฟฟ้าลบ และ เป็นกลางทางไฟฟ้า
แนวคำาตอบชวนคิด
จากรูป 20.7 แนวการเบนของรังสีแนวใด เป็นรังสีแอลฟา บีตา และ แกมมา ตามลำาดับ
แนวคำาตอบ แนวที่ 1 เป็นแนวของรังสีแอลฟา แนวที่ 2 เป็นแนวของรังสีแกมมา และ แนวที่ 3 เป็น
แนวของรังสีบีตา
ครูให้นักเรียนศึกษาเก่ยวกับชนิดและสมบัติของรังสีท่แผ่ออกมาจากธาตุและไอโซโทปกัมมันตรังส ี
ี
ี
ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน แล้วอภิปรายร่วมกันจนสรุปได้ตามข้อมูลในตาราง 20.2
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

