Page 23 - Livestock Production E Magazine-893
P. 23
LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE
เหตผลในอาหาร ก็ยิงทําลายจลชีพชนิดดีมากขึนแทน เกิดสภาวะจุลชีพในทางเดินอาหารไม่สมดล ผลท้ายสุดคือ กระบวนการ
ุ
ุ
้
ุ
่
ั
ำ
ท้งหากมีการใช้ยาปฏิชีวนะท่ไม่สมเหตุผลในอาหาร ก็ยิ่งทาลายจุลชีพ อักเสบ ช่วยให้เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำาไส้
ี
้
้
้
้
็
ํ
ุ
่
อักเสบ ดูดซึมได้นอย ซํายังดึงนาออกมาอีก ทําให้ถ่ายเหลว ท้องเสียติดเชือหลังหย่านม และสาเหตสุดท้ายคือ เปนช่วงทีลูก
วัตถุที่เติมในอาหารสัตว์ ชนดดีมากขึนแทน เกิดสภาวะจุลชีพในทางเดินอาหารไม่สมดุล มีความแข็งแรง ทนทานต่อการถูกทาลายจากจุลชีพก่อโรค เช่น
ำ
้
ิ
่
สุกรมีภูมิคุ้มกันทีได้รับผ่านนานมเหลืองมาจากแม่ ลดนอยลงจนอาจปองกันหรือทําลายเชือโรคได้ไม่ดี ซึงก็รวมถึงเชือโรคใน
่
้
้
ํ
้
้
้
ำ
ี
ผลท้ายสุดคือ กระบวนการอักเสบ ดูดซึมได้น้อย ซ้ายังดึงน้ำาออก แบคทีเรีย ซิงค์ยังเป็นองค์ประกอบของเอนไซม์ท่ผลิตบริเวณเยื่อ
่
่
ทางเดินอาหารด้วยเช่นกัน เสริมร่วมกับความเครียด ภูมิคุ้มกันก็ยิงลดตําลงเร็วมากขึนไปอีก สรุปทั้งสามสาเหตมักเกิดร่วมกัน
้
ุ
ำ
ำ
ำ
ในภาวะต้นทุนการผลิตสูง : ZnO มาอีก ทาให้ถ่ายเหลว ท้องเสียติดเชื้อหลังหย่านม และสาเหตุสุดท้าย เมือกทางเดินอาหาร ป้องกันการสูญเสียน้าและอิเล็กโทรไลด์ในลาไส้
มีปฏิสัมพันธ์ในทางบวก หรือเสริมกัน ให้เกิดผลลัพธ์สุดท้ายคือ กินอาหารนอยลง ถ่ายเหลว ท้องเสีย SET BACK นาน
้
้
่
้
เสียหายสูง สุกรโตช้า ทามกลางต้นทุนการผลิตทีสูงขึนทุกด้าน ซําเติมวิกฤตินีให้หนักขึนไปอีก
่
้
คือ เป็นช่วงที่ลูกสุกรมีภูมิคุ้มกันที่ได้รับผ่านน้ำานมเหลืองมาจากแม่ ้ ช่วยส่งเสริมให้จุลชีพดี (Normal flora) ในทางเดินอาหารเพิ่มจำานวน
ี
ำ
ลดน้อยลงจนอาจป้องกันหรือทาลายเชื้อโรคได้ไม่ดี ซึ่งก็รวมถึง จับจองพืนทในลำาไส้ ทำางานได้ดีตามปกติ และปรับสมดุลยับยัง ้
้
่
่
วิธีลดต้นทุนการผลิตส่วนอาหารสัตว์ในภาพใหญ หรือทางตรงก็มีหลากหลายตั้งแต การเลือกใช้วัตถุดิบทางเลือก การ
่
เชื้อโรคในทางเดินอาหารด้วยเช่นกัน เสริมร่วมกับความเครียด การเจริญของแบคทีเรียที่เป็นเชื้อก่อโรค โดยตัวซิงค์เองไม่ได้มีฤทธิ์
ทําสูตรโดยสมดลกรดอะมิโนแทนโปรตีนหยาบ การปรับลดพลังงานหน้าสูตร และ/หรือทดแทนเพิมพลังงานจากการเสริม
ุ
่
ั
ำ
ภูมิคุ้มกันก็ยิ่งลดต่าลงเร็วมากขึ้นไปอีก สรุปท้งสามสาเหตุมักเกิด ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่มีฤทธิ์ต่อต้านการหลั่งสารพิษจากแบคทีเรีย และ
เอนไซม์เช่น NSP-เอนไซม์ การลดฟอสฟอรัสโดยเสริมเอนไซม์ไฟเตส เปนต้น ส่วนวิธีการลลดต้นทุนการผลิตในส่วนอาหาร
็
ร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์ในทางบวก หรือเสริมกัน ให้เกิดผลลัพธ์สุดท้าย สารบางชนิดจากร่างกาย บางทฤษฎีอธิบายว่าซิงค์ออกไซด์อาจไป
ํ
สัตว์ทางอ้อมก็คือ ทําอย่างไรให้สุกรกินได้ดี ไม่ถ่ายเหลว ไม่ท้องเสีย ดูดซึมนาไปใช้ได้มากทีสุด อันได้แก โปรไบโอติกส์
่
่
คือ กินอาหารน้อยลง ถ่ายเหลว ท้องเสีย SET BACK นาน จับกับตัวรับท่เซลล์ Enterocyte ของลาไส้เล็ก ทาให้เชื้อก่อโรค
ำ
ี
ำ
็
่
่
้
่
สมุนไพร กรด หรือวัตถุทีเติมในอาหารสัตว์แล้วสามารถช่วยลดการถายเหลว และท้องเสียในสุกร ซึงในบทความนีจะเปน
ี
เสียหายสูง สุกรโตช้า ท่ามกลางต้นทุนการผลิตท่สูงขึ้นทุกด้าน ไม่สามารถยึดเกาะกับ Enterocyte ได้ จึงไม่ก่อให้เกิดโรค หรือ
เนือหาเกียวกับสารเติมแตงชนิดหนึงทีมีชือว่า ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide, ZnO)
่
่
่
้
่
่
ำ
ซ้ำาเติมวิกฤตินี้ให้หนักขึ้นไปอีก ็ ุ ่ อาการป่วย ซิงค์บางชนิดมีรายงานว่าช่วยกระตุ้นการทางานของ
่
ซิงค์ (Zn) หรือสังกะสี เปนแร่ธาตทีมีส่วนช่วยในการทํางานระบบตางๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิงเอนไซม์
่
เม็ดเลือดขาวได้ ซิงค์ออกไซด์นิยมนำามาใช้ผสมอาหารสุกร ด้วย
วิธีลดต้นทุนการผลิตส่วนอาหารสัตว์ในภาพใหญ่ หรือทางตรง
กระบวนการทางชีวเคมีตางๆ รวมถึงเมตาบอลิสมหลายระบบของร่างกายเช่น โปรตีนและกรดอะมิโน เกียวข้องกับระบบ
่
่
ก็มีหลากหลายตั้งแต่ การเลือกใช้วัตถุดิบทางเลือก การทำาสูตรโดย อัตราการใช้ประมาณ 2,000-3,000 มก./กก.อาหาร (1,500-4,000
่
ุ
ภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยให้เซลล์เยือบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิงลําไส้ มีความแข็งแรง ทนทานตอการถูก
่
่
่
สมดุลกรดอะมิโนแทนโปรตีนหยาบ การปรับลดพลังงานหน้าสูตร ppm) โดยเฉพาะอย่างยิงในช่วงหลังหย่านม เพือหวงผลช่วยลด
ั
่
็
ทําลายจากจุลชีพกอโรค เช่น แบคทีเรีย ซิงค์ยังเปนองค์ประกอบของเอนไซม์ทีผลิตบริเวณเยือเมือกทางเดินอาหาร ป้องกัน
่
่
่
ื
และ/หรือทดแทนเพิ่มพลังงานจากการเสริมเอนไซม์เช่น NSP- อาการถ่ายเหลว ท้องเสีย และหายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เน่องจาก
่
ํ
้
่
การสูญเสียนาและอิเล็กโทรไลด์ในลําไส้ ช่วยส่งเสริมให้จลชีพดี (Normal flora) ในทางเดินอาหารเพิมจํานวน จับจองพืนทีใน
ุ
้
น.สพ. ยุทธ เทียมสุวรรณ
ี
น.สพ. ยุทธ เทยมสุวรรณ เอนไซม์ การลดฟอสฟอรัสโดยเสริมเอนไซม์ไฟเตส เป็นต้น ส่วนวิธี เกี่ยวข้องกับกระบวนการเพิ่มจำานวนสารพันธุกรรมที่เซลล์ลำาไส้ อีก
ลําไส้ ทํางานได้ดีตามปกติ และปรับสมดลยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียทีเปนเชือกอโรค โดยตัวซิงค์เองไม่ได้มีฤทธิ์ฆ่าเชือ
้
ุ
่
่
็
้
ผู้จัดการฝ่ายวิชาการ บจก. เซ็นทรัลลิส
ำ
้
่
ผูจัดการฝายวิชาการ บจก. เซ็นทรัลลิส การลลดต้นทุนการผลิตในส่วนอาหารสัตว์ทางอ้อมก็คือ ทาอย่างไร ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตได้อีกด้วย
่
แบคทีเรีย แตมีฤทธิ์ตอต้านการหลั่งสารพิษจากแบคทีเรีย และสารบางชนิดจากร่างกาย บางทฤษฎีอธิบายว่าซิงค์ออกไซด์อาจ
่
ให้สุกรกินได้ดี ไม่ถ่ายเหลว ไม่ท้องเสีย ดูดซึมนำาไปใช้ได้มากที่สุด ่ งานวิจัยทดลองส่วนใหญ่เป็นไปในแนวทางเดียวกันคือ ซิงค์
ไปจับกับตัวรับทีเซลล์ Enterocyte ของลําไส้เล็ก ทําให้เชือกอโรคไม่สามารถยึดเกาะกับ Enterocyte ได้ จึงไม่กอให้เกิดโรค
่
่
้
่
ั
หลังการหย่านมลูกสุกร มักพบปญหาชะงักการเจริญเติบโต หรือทีเรียกกันว่า SET BACK โดยเฉพาะอย่างยิงในช่วง
่
หลังการหย่านมลูกสุกร มักพบปัญหาชะงักการเจริญเติบโต ได้มากท่สุด และผลิตสุกรให้เติบโตเร็ว แลกอาหารเป็นเน้อได้ดี อันได้แก่ โปรไบโอติกส์ สมุนไพร กรด หรือวัตถุที่เติมในอาหารสัตว์ ออกไซด์ช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต สุกรกลุ่มท่เสริมซิงค์ออกไซด์
ื
ี
ี
ุ
ํ
่
หรืออาการปวย ซิงค์บางชนิดมีรายงานว่าช่วยกระต้นการทํางานของเม็ดเลือดขาวได้ ซิงค์ออกไซด์นิยมนามาใช้ผสมอาหาร
่
่
7 วันแรกทีแสนจะวิกฤติ ลูกสุกรจะมีลักษณะซูบซีด ผิวไม่เปนสีชมพู ดูผอมลง ไม่เตงตึง เหียว ผิวแห้ง ขนยาวหยาบ โตช้า ไม่
่
หรือที่เรียกกันว่า SET BACK โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 7 วันแรก ็ โดยการเอาชนะปัญหาถ่ายเหลว ท้องเสียในช่วงนี้ จึงน่าจะเป็นอีก แล้วสามารถช่วยลดการถ่ายเหลว และท้องเสียในสุกร ซึ่งในบทความ จะมีอตราการเจรญเติบโต (ADG) สูงมากกวากลุมควบคุมท่ไม่ได้
ั
่
ี
ิ
่
สุกร ด้วยอัตราการใช้ประมาณ 2,000-3,000 มก./กก.อาหาร (1,500-4,000 ppm) โดยเฉพาะอย่างยิงในช่วงหลังหย่านม เพือ
่
่
่
่
้
สมําเสมอ แตกไซส์ หลายตัวปวยด้วยอาการโรคแทรกซ้อนอืนๆ มากขึน เช่น หอบ ไอ ข้อบวม ชัก อัตราการตายการคัดทิง
ที่แสนจะวิกฤติ ลูกสุกรจะมีลักษณะซูบซีด ผิวไม่เป็นสีชมพู ดูผอม ่ ทางเลือกที่ช่วยได้ดีในภาวะเช่นนี้ ้ นี้จะเป็นเนื้อหาเก่ยวกับสารเติมแต่งชนิดหนึ่งท่มีชื่อว่า ซิงค์ออกไซด์ ้ เสริม แสดงดัง Table 1 และตารางท่ 1 ส่วนอัตราการกินได้
ี
ี
ี
่
่
ุ
้
ื
่
่
หวังผลช่วยลดอาการถายเหลว ท้องเสีย และหายฟนตัวได้เร็วขึน เนืองจากเกียวข้องกับกระบวนการเพิมจํานวนสารพันธกรรม
้
สูงขึน ใช้เวลาเลียงนานขึน ค่ายาเพิมขึน อาการเหลานีจะค่อยๆ หาย ปรับตัวกลับเปนปกติใน 7-10 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อน
่
้
้
็
้
่
้
้
ี
ลง ไม่เต่งตึง เห่ยว ผิวแห้ง ขนยาวหยาบ โตช้า ไม่สม่าเสมอ อาการถายเหลว ท้องเสีย ในช่วงนีมีสาเหตุหลักๆ มาจากภาวะ (Zinc Oxide, ZnO) ่ ต่อวัน (ADFI) นั้นก็ให้ผลไปในแนวทางเดียวกัน แสดงดังตารางที่
ำ
่
ทีเซลล์ลําไส้ อีกทั้งยังช่วยเพิมประสิทธิภาพการเจริญเติบโตได้อีกด้วย
่
่
ุ
และอาการทีสําคัญอีกระบบหนึง มักพบได้บอยเกือบทกเคสนั่นก็คือ กินอาหารลดนอยลง ถ่ายเหลว ท้องเสีย เสียนาหนัก
้
้
ํ
่
่
ุ
ำ
แตกไซส์ หลายตัวป่วยด้วยอาการโรคแทรกซ้อนอื่นๆ มากขึ้น เช่น เครียด หลังหย่านมก็ไม่มีแม่สุกร ไม่มีน้านม ขาดความอบอ่น ซิงค์ (Zn) หรือสังกะสี เป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยในการทำางาน 1 และ Table 2 โดยควรเสริมซิงค์ออกไซด์ในอาหารลูกสุกรหลัง
งานวิจัยทดลองส่วนใหญเปนไปในแนวทางเดียวกันคือ ซิงค์ออกไซด์ช่วยเพิมอัตราการเจริญเติบโต สุกรกลุมที่เสริมซิ
่
่
็
่
ํ
่
อย่างทีทราบกันดีว่านาหนักหย่านมทีดี จะส่งผลดอการเจริญเติบโตในช่วงอนบาล ตลอดไปถึงช่วงขุน นาหนักหย่านม
ํ
้
ุ
้
่
่
ุ
ี
หอบ ไอ ข้อบวม ชัก อัตราการตายการคัดทิ้งสูงขึ้น ใช้เวลาเลี้ยง รวมถึงเปล่ยนสภาพแวดล้อมท่อยู่ใหม่ มีการรวมกล่ม จัดลำาดับสังคม ระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอนไซม์ กระบวนการ ุ ่ หย่านม ในอัตรา 2,000-3,500 มก./กก.อาหาร เป็นระยะเวลานาน
ี
งค์ออกไซด์ จะมีอัตราการเจริญเติบโต (ADG) สูงมากกว่ากลมควบคุมทีไม่ได้เสริม แสดงดัง Table 1 และตารางที 1 ส่วนอัตรา
่
่
่
้
ทีมากขึน 1 กก. อาจให้ผลอัตราการเจริญเติบโตในช่วงอนุบาลที่สูงมากกว่า 30 ก.ต่อวัน อันส่งผลให้นํ้าหนักออกจากอนุบาล
นานขึ้น ค่ายาเพิ่มขึ้น อาการเหล่านี้จะค่อยๆ หาย ปรับตัวกลับเป็น ใหม่ ความเครียดส่งผลให้ต้องใช้สารอาหารไปจัดการกับความเครียด ทางชีวเคมีต่างๆ รวมถึงเมตาบอลิสมหลายระบบของร่างกายเช่น แสดงดังตารางที่ 1 และ Table 2 โดยควรเสริมซิงค์ออกไซด์ใน
การกินได้ตอวัน (ADFI) นั้นก็ให้ผลไปในแนวทางเดียวกัน
่
21 วัน และหากเสริมด้วยอัตราที่น้อยลง หรือระยะเวลาให้ที่สั้นลง
ุ
่
่
่
มากกว่าถึง 2 กก.ตอตัว ส่งผลให้สุกรขุนขายได้เร็วขึน 3-5 วัน อันช่วยลดต้นทนการผลิตได้อย่างมีนัยสําคัญ แตสิงทีกลาวมา
่
้
่
้
ี
ำ
ปกติใน 7-10 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อน และอาการท่สำาคัญอีก แทนท่จะเอาไปใช้เจริญเติบโต ความเครียดทาใหอยากอาหารลดน้อย โปรตีนและกรดอะมิโน เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ต้านการ ก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพปรับปรุงข้างต้นให้น้อยลงตามไปด้วย
ี
้
็
่
อาหารลูกสุกรหลังหย่านม ในอัตรา 2,000-3,500 มก./กก.อาหาร เปนระยะเวลานาน 21 วัน และหากเสริมด้วยอัตราทีนอยลง
้
่
้
จะเกิดขึนได้ยาก หรือไม่ได้เลย หากสุกรมีภาวะ SET BACK แล้วกินอาหารนอย ถ่ายเหลว ท้องเสีย ยิงหากเกิดขึนในภาวะที
่
้
ระบบหนึ่ง มักพบได้บ่อยเกือบทุกเคสนั่นก็คือ กินอาหารลดน้อยลง ลง เมื่อกินลดน้อยลง จะส่งผลให้เซลล์ผนังลำาไส้ถูกทำาลาย การย่อย หรือระยะเวลาให้ทีสั้นลง ก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพปรับปรุงข้างต้นให้นอยลงตามไปด้วย
้
่
ุ
ต้นทนการผลิตสุกรสูงจากวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงมาก การลดต้นทนการผลิตรวมให้ได้มากทีสุด และผลิตสุกรให้เติบโต
่
ุ
ถ่ายเหลว ท้องเสีย เสียน้ำาหนัก ้ ั และดูดซึมลดลง มีการขับไขมัน คาร์โบไฮเดรต และน้ำาออกมามาก
็
็
่
่
เร็ว แลกอาหารเปนเนือได้ดี โดยการเอาชนะปญหาถ่ายเหลว ท้องเสียในช่วงนี จึงนาจะเปนอีกทางเลือกทีช่วยได้ดีในภาวะ
้
ี
อย่างท่ทราบกันดีว่านาหนักหย่านมท่ดี จะส่งผลด่อการเจริญ ขึ้น ทำาให้เกิดอาการท้องเสียถ่ายเหลวแบบไม่ติดเชื้อ สุกรก็จะโตช้า
้
ี
ำ
เช่นนี
้
ี
เติบโตในช่วงอนุบาล ตลอดไปถึงช่วงขุน นาหนักหย่านมท่มากขึ้น ลง ร่วมกับอีกสาเหตุหลักคือ เปลี่ยนมื้ออาหารให้กินน้อยลง เปลี่ยน
้
ำ
ํ
้
อาการถายเหลว ท้องเสีย ในช่วงนีมีสาเหตหลักๆ มาจากภาวะเครียด หลังหย่านมก็ไม่มีแม่สุกร ไม่มีนานม ขาดความ
ุ
่
้
ี
ำ
้
1 กก. อาจให้ผลอัตราการเจริญเติบโตในช่วงอนุบาลท่สูงมากกว่า ่ อาหารจากนานมมาเป็นอาหารแห้งแข็งกลุ่มธัญพืช ความน่ากินน้อย
่
อบอุน รวมถึงเปลียนสภาพแวดล้อมทีอยูใหม่ มีการรวมกลุม จัดลําดับสังคมใหม่ ความเครียดส่งผลให้ต้องใช้สารอาหารไป
่
่
่
ั
30 ก.ต่อวัน อันส่งผลให้น้ำาหนักออกจากอนุบาลมากกว่าถึง 2 กก. ไม่เคยชิน ทาใหสุกรกินได้น้อยลง ท้งสุกรยังผลิตเอนไซม์ย่อยอาหาร
ำ
้
่
จัดการกับความเครียด แทนทีจะเอาไปใช้เจริญเติบโต ความเครียดทําให้อยากอาหารลดนอยลง เมือกินลดน้อยลง จะส่งผลให้
้
่
ุ
้
ต่อตัว ส่งผลให้สุกรขุนขายได้เร็วข้น 3-5 วัน อันช่วยลดต้นทุน กล่มนีได้น้อยมาก อาหารมักมีโมเลกลหยาบ ใหญ่ ระคายเคือง
ุ คาร์โบไฮเดรต และนํ้าออกมามากขึ้น ทําให้เกิดอาการ
เซลล์ผนังลําไส้ถูกทําลาย
ึ การย่อยและดูดซึมลดลง มีการขับไขมัน
ำ
ท้องเสียถ่ายเหลวแบบไม่ติดเชือ สุกรก็จะโตช้าลง ร่วมกับอีกสาเหตหลักคือ เปลียนมืออาหารให้กินนอยลง เปลียนอาหารจาก
ุ
่
้
การผลิตได้อย่างมีนัยสำาคัญ แต่สิ่งที่กล่าวมาจะเกิดขึ้นได้ยาก หรือ ก่อการอักเสบ เซลล์ผนังลำาไส้และวิลไลจะถูกทาลาย ดูดซึมได้ลด
้
่
้
ํ
้
ไม่ได้เลย หากสุกรมีภาวะ SET BACK แล้วกินอาหารน้อย ่เคยชิน ทําให้สุกรกินได้น้อยลง ทั้งสุกรยังผลิตเอนไซม์ย่อยอาหาร
นานมมาเปนอาหารแห้งแข็งกลุมธัญพืช ความนากินนอย ไม
่
่
็
้
น้อยลงเช่นกัน ผลก็คล้ายสาเหตุแรก เพิ่มเติมมาคือ สภาพกรดด่าง
่
่
้
กลมนีได้นอยมาก อาหารมักมีโมเลกุลหยาบ ใหญ ระคายเคือง กอการอักเสบ เซลล์ผนังลําไส้และวิลไลจะถูกทําลาย ดูดซึมได้
ุ
้
่
ถายเหลว ท้องเสีย ยิ่งหากเกิดขึ้นในภาวะท่ต้นทนการผลิตสุกรสูง ในลำาไส้ผิดปกติไป มีอาหารเหลือที่ย่อยไม่ได้ ดูดซึมไม่ได้ กลายมา
ุ
ี
่
้
่
่
ุ
ลดนอยลงเช่นกัน ผลก็คล้ายสาเหตแรก เพิมเติมมาคือ สภาพกรดดางในลําไส้ผิดปกติไป มีอาหารเหลือทีย่อยไม่ได้ ดูดซึม
่
จากวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงมาก การลดต้นทุนการผลิตรวมให้ เป็นอาหารให้จุลชีพก่อโรคเติบโตเพิ่มจำานวนและก่อโรคได้มากขึ้น อีก
่
ไม่ได้ กลายมาเปนอาหารให้จลชีพกอโรคเติบโตเพิมจํานวนและก่อโรคได้มากขึน อีกทั้งหากมีการใช้ยาปฏิชีวนะทีไม่สม
่
้
่
ุ
็
22 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 23

