Page 12 - DSPM
P. 12
กำรส่งเสริมพัฒนำกำรเด็กปฐมวัยโดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง
กุญแจสู่ความส�าเร็จ
• รักลูกแสดงออกอย่ำงสม�่ำเสมอในกำรดูแลเด็กทุก ๆ วันตั้งแต่กำรกิน นอน เล่น ออกก�ำลังกำย และเรียนรู้ที่เหมำะสมถูกสุขอนำมัยและปลอดภัย
• ไม่เปรียบเทียบกันระหว่ำงเด็ก เพรำะเด็กแต่ละคนมีควำมแตกต่ำงกัน
• กำรเรียนรู้ของเด็กเริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิ เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่อง
• เด็กเรียนรู้ผ่ำนกำรฟัง กำรดู กำรจับต้อง กำรเล่น กำรท�ำตำมแบบอย่ำง และลองท�ำ พ่อแม่ ผู้ปกครองจึงควรคุยกับลูกตั้งแต่วัยทำรก เล่น เล่ำเรื่องสิ่งที่ก�ำลังท�ำกับเด็ก เล่ำนิทำน
อ่ำนหนังสือให้ฟัง ชี้ชวนดูสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ดูรูป กำรมีกิจกรรมศิลปะและดนตรี กิจกรรมในบ้ำน และประสบกำรณ์ตรงอื่น ๆ
• พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องฟังเด็ก ส่งเสริมให้เด็กถำมและสังเกต ชี้ชวนกันสนทนำและให้เด็กมีส่วนร่วมแสดงควำมคิดเห็น
• ไม่ใช้วิธีบังคับฝืนใจ ไม่กดดันหรือเร่งรัดเด็ก ไม่ก้ำวร้ำวหรือท�ำร้ำยเด็กทั้งทำงร่ำงกำย จิตใจ และวำจำ
• เด็กต้องได้รับโอกำสฝึกกำรมีวินัยในตนเอง เช่น กำรกิน กำรนอนเป็นเวลำ กำรเก็บของเล่น กำรทิ้งขยะในที่ทิ้งขยะ กำรล้ำงมือ กำรไม่แย่งของคนอื่น กำรไม่ทุบตีท�ำร้ำยคนอื่น เป็นต้น
• โทรทัศน์หรือสื่อท�ำนองเดียวกันอำจขัดขวำงพัฒนำกำรรอบด้ำนของเด็กอำยุต�่ำกว่ำ 2 ปี และรบกวนกำรนอนหลับของเด็ก
ื
่
็
ี
ี
�
ี
• พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องเป็นตัวอย่ำงพฤติกรรมทดีส�ำหรบเด็ก เปิดโอกำสให้เดกได้ฝึกทำ และควรช้แจงเม่อเด็กท�ำผิดพลำด เปล่ยนเป็นให้ก�ำลังใจ เม่อเด็กพยำยำมทำส่ง
ิ
�
ื
ั
ที่พึงปรำรถนำ และชมเชย เมื่อเด็กท�ำได้ เด็กจะค่อย ๆ รู้จักใช้เหตุผลและรักษำค�ำพูดตำมแบบที่พ่อแม่ปฏิบัติ
ข้อควรค�านึงในการฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
กำรฝึกทักษะเด็กมีเป้ำหมำยส่งเสริมพัฒนำกำรเด็กให้ก้ำวหน้ำเป็นไปตำมวัย สำมำรถใช้ในชีวิตจริงและในสภำพแวดล้อมจริง โดยควรค�ำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
• ค�ำพูดที่ใช้ควรง่ำย สั้น ชัดเจน และคงเส้นคงวำ
• ให้เวลำเด็กปฏิบัติตำม 3 - 5 วินำที ถ้ำเด็กยังไม่ได้ท�ำ ให้พูดซ�้ำ (ข้อควำมเหมือนเดิม) พร้อมให้กำรช่วยเหลือเด็กท�ำจนเสร็จ
• ให้ควำมช่วยเหลือเด็กเท่ำที่จ�ำเป็น ลดกำรช่วยเหลือลงเมื่อเด็กท�ำได้ ซึ่งอำจช่วยเหลือโดย
- ทำงกำย : จับมือท�ำ แตะข้อศอกกระตุ้น
- ทำงวำจำ : บอกให้เด็กลองท�ำดู หำกจ�ำเป็นอำจจะบอกให้เด็กทรำบวิธี ทีละขั้น
ี
�
ี
ี
- ทำงทำทำง : ช้ ผงกศีรษะ ส่ำยหน้ำ ขัดขวำงไม่ให้เกิดพฤติกรรมท่ไม่ต้องกำร เช่น เม่อบอกให้เด็กช้แปรงสีฟัน แต่เด็กจะช้แก้วน้ำ ให้ใช้มือปิดแก้วน้ำ เพ่อให้เด็กรู้ว่ำจะต้อง
�
่
ี
ื
ื
ช้แปรงสีฟัน
ี
เมื่อเด็กเกิดกำรเรียนรู้แล้ว ให้เปลี่ยนข้อควำมแบบต่ำง ๆ แต่มีควำมหมำยเหมือนกัน เพื่อให้เด็กรู้จักสิ่งที่แตกต่ำงกัน กำรให้แรงเสริมควรให้ทันทีเมื่อเด็กท�ำได้ถูกต้อง ไม่ว่ำจะเป็น
กำรช่วยเพื่อให้เด็กท�ำได้หรือเด็กท�ำได้เอง เช่น ชมเชย ยิ้ม ปรบมือ สัมผัส ให้ขนม แต่ควรค�ำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. แรงเสริมควรเหมำะสมกับวัย เป็นสิ่งที่เด็กชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน
2. ควรให้แรงเสริมบ่อย ๆ เมื่อต้องกำรให้เกิดทักษะหรือพฤติกรรมใหม่
3. กำรลดแรงเสริมลงเมื่อเด็กท�ำได้ สังเกตว่ำเด็กมีควำมพอใจรู้สึกดีในสิ่งที่ตนท�ำได้ จึงไม่จ�ำเป็นต้องอำศัยแรงเสริมจำกภำยนอก
4. กำรให้รำงวัล เช่น กำรแสดงควำมเอำใจใส่ ย้ม กอด ปรบมือให้หรือให้ของ เม่อเด็กต้งใจท�ำหรือท�ำส�ำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อพัฒนำกำรของเด็กในระยะยำว ต่ำงกับ
ิ
ั
ื
กำรให้สินบนและกำรขู่เข็ญบังคับให้ท�ำ ”ควรใช้การสอนโดยอธิบายอย่างนุ่มนวลแต่หนักแน่น”
10 คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย : Developmental Surveillance and Promotion Manual (DSPM)

