Page 36 - 02 รายงานวิชาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
P. 36

- 14 -




                       2.3.2 สภาพธรณวิทยาและปฐพวิทยา (Geology and Pedology)
                                       ี
                                                      ี
                           สภาพธรณีวิทยาท่แตกตางกันใหชั้นดินตางชนิดกัน และความหนาตางกน เชน หินแกรนิต
                                                             
                                          ี
                                                                                       ั
                                                                                       ี
               แสดงลักษณะไมมีความเปนเนื้อเดยวกน (heterogeneous) มีอัตราการผุพงสูง แรทเปนองคประกอบ
                                                                                              
                                                ั
                                                                                       ่
                                             ี
                                                                               ั
                 ื
               เม่อผุพังแลวจะใหชันดนเปนตะกอนทราย หรือตะกอนทรายปนดนเหนียว (วรวุฒิ ตันติวนิช, 2535)
                                ้
                                                                        ิ
                                   ิ
                                                                                ิ
                                                                   ิ
                                                        ิ
               สวนหินภูเขาไฟ มีอัตราการผุพังสูง และใหชันดนทรายปนดนเหนียว หรือดนเหนียว สวนหินตะกอน
                                                      ้
                       ิ
                                                                                  ี
                                        ื
                                                  ้
                                                                                ี
                                                                             ื
               เชน หินดนดาน หินโคลน เม่อผุพังจะใหชันดินเหนียวเปนสวนใหญ สวนพ้นท่ท่มีลักษณะธรณีวิทยาเปน
                                                                                   
                                                                                    
                                                                  ี
                                                                         ิ
                                                                            ิ
               หินแปร เชน หินชนวน (slate) หินควอรตไซต (quartzite) มโอกาสเกดดนถลมไดงายกวาหินตะกอนเชน
                                
               หินปูน หินโดโลไมต (limestone/dolomite) และหินทราย (Mehrotra and others, 1991) นอกจากนี ้
                                        ั
               การพิจารณาจากอัตราการผุพงอาจจะสามารถบงบอกถึงโอกาสเกิดดินถลมได เชน ปจจัยการผุพังสลายตัว
                                           ี่
                                                                           ิ
               ของหินแบงเปน 3 กลุม คอ กลุมท 1 หินมีการผุพงสลายตัวเร็วแตโอกาสเกดดินถลมต่ำ ไดแก หินควอรตไซต  
                                    ื
                                                       ั
                                                         ่
                                                                      ั
                                                                ี
                                                                             ั
               หินปูน หินแกรนิต หินแกบโบร และหินไนส กลุมท 2 หินมการผุพงสลายตวปานกลางมโอกาสเกิดดินถลม
                                                                                       ี
                                                         ี
                                                      
                                                                 ี
                                  ิ
                                                                              ั
                           
               ปานกลาง ไดแก หินดนดาน และหินทรายแปง และกลุมท่ 3 หินมการผุพงสลายตวชาแตมโอกาสเกด
                                                                                      ั
                                                                                             ี
                                                                        ี
                             
                                                                                                     ิ
                                                                    ้
                                                                                                     
                                                                                           ี
                                                                                                 ี
                                                          
                                                
               ดนถลมสูง ไดแก หินชนวน หินฟลไลต และหินชีสต นอกจากนียังพบวาโครงสรางทางธรณวิทยามผลตอ
                             
                           
                 ิ
               อตราการผุพงของหิน โดยเฉพาะหินทอยูในเขตรอยเลื่อน มรอยแตกและรอยแยกมาก สงผลใหอตรา
                                                ี
                                                                                                   ั
                 ั
                                                                   ี
                                                ่
                          ั
                                                                                                 
                                 
                      ั
                                      ่
                                                                                                     ึ
                                                                                                
                                                                         
                                                                                   ิ
               การผุพงสูงตามมาดวย เนืองจากมีชองวางใหน้ำ และอากาศผานเขาไปทำปฏิกริยาทางเคมไดงายขน
                                                                                              ี
                                                                                                     ้
               (Anbalagan, 1992)
                                                                                            ั้
                                                                                                ึ้
                                                                                                     ั
                                ิ
                                              ื
                           การเกดดินถลมระดับต้น (shallow landslide) มีความหลากหลายทางชนิด ทงนี้ขนอยูกบ
               ชนิดของดนทเปนผลมาจากการผุพงของชันหินตนกำเนิด พิสุทธิและคณะ (2533) ไดศกษา
                                                       ้
                                                              
                            ี
                                                 ั
                                                                            ์
                         ิ
                                                                                                  ึ
                                                                                                
                            ่
                                                             ี
                   ี
               ดินท่เกิดจากการผุพังสลายตัวของหินแกรนิต บริเวณท่เกิดดินถลมอำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช
                                                                                  ิ
                                
                      ิ
               พบวาดนสวนใหญเปนดินทราย สามารถแบงเปน 2 ชั้นคือ ดินชั้นบนเปนดนรวนเหนียวปนทราย
               (sandy clay loam) ซงประกอบดวยอนุภาคขนาดทรายรอยละ 50 - 65 ดินชั้นลางเปนดินเหนียวปนทราย
                                  ึ่
               (sandy clay) ซงประกอบดวยอนุภาคขนาดทรายรอยละ 30 - 45 จากขอมูลนี้จะเห็นวาดินทราย
                             ึ่
                                        
                                                                   
               มแรงยึดเหนี่ยวของเม็ดดินมีนอยทำใหเกดการพงทลายไดงาย โดยปกติแลวถาดินแหงสนิทจะไมม  ี
                                                          ั
                                                    ิ
                 ี
                             ิ
                                                         ิ
               แรงยึดเหนียวเกดขนเลย ดินจะมีแรงยึดเหนี่ยวเพมขนเมอดินไดรับความชื้นเพมขนและจะคอย ๆ ลดลง
                                                         ่
                                                                                            
                                                                                 ิ่
                               ้
                                                               ื่
                                                           ึ้
                                                                                   ึ้
                         ่
                               ึ
               เมอดินไดรับความชื้นมากขนเรือย ๆ จนเกนขดจํากดพลาสติก (plastic limit: PL) ดนแทบจะไมมีแรง
                                       ึ
                                       ้
                                          ่
                                                                                                 
                                                           ั
                                                      ี
                 ื่
                                                    ิ
                                                                                       ิ
                                ี
                                                             ึ
                               
                                       ื
               ยึดเหนียวหรือไมมเลย เมอดินไดรับความชื้นมากข้นจนถึงขีดจํากัดความเหลว (liquid limit: LL)
                                             
                      ่
                                       ่
                                                                                                     ั
                                                                                             
                                                                                                ี
                                                  ี
                                                                         ี
               ดินจะอยูในสภาพเหลวและไหลได คาทไดจากผลตางระหวางคาขดจํากัดความเหลวกับคาขดจํากด
                                                            
                                                                       
                                                  ่
                                                                                               ี
                                ั
                                                                                            ้
                                                                                               ่
               พลาสตก เรียกวา ดชนีพลาสติก (plastic Index: PI) ใชเปนตัวเปรียบเทยบปริมาณความชืนทสามารถ
                      ิ
                                                                             ี
                                      ่
                                                           ึ่
               เพมใหดินไดโดยดินไมเปลียนสภาพเปนของเหลว ซงดินแตละชนิดมีคาดชนีพลาสติกไมเทากน ดนทีม  ี
                                                                                              ั
                                  
                                                                                                     ่
                                                                                                  ิ
                                                                                            
                                                                           
                  ่
                  ิ
                                                                             ั
                                              ิ
                                                                           ี
                 
                                                                                          ่
                                                                       ้
                                                           ่
                                                           ื
               คาดัชนีพลาสติกต่ำ (PI = 5) เชน ดนทรายแปง เมอไดรับความชืนเพยงเล็กนอยจะเปลียนสภาพเปน
                                                                                
                                     ี
                                    ี่
                                                                                         ้
                                                                                            
                                      
               ของเหลวไดงายกวาดินทมคาดัชนีพลาสติกสูง (PI = 20) เชน ดินเหนียวตองไดรับความชืนเขาไปมากกวา
               จึงจะเปลียนสภาพเปนของเหลว
                       ่
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41