Page 185 - Final E-Book Santi Tip-osot
P. 185
วิธีการสอน รหัส เวลา
เนื้อหา
กิจกรรม ผู้สอน/ผู้เรียน หนังสือ นาที
ผู้สอน :
3. เมื่อหน้าตัดของคานเป็ นรูปตัว I ส าหรับ flanged-type beam
VQ วิธีการสอนแบบบรรยาย
ดังเช่นหน้าตัดของคานรูปตัว I และตัว U จะใช้สมการ ที่ flanged
Ib ใช้ ทั ก ษ ะ ก า รถ า ม
ไม่ได้ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ (ดูรูปที่ 5 ประกอบ) (Questioning skill) กระตุ้น
ผู้เรียนให้มีความสนใจในวิชา
เรียน
อธิบายการรับแรงเฉือน
ของคานรูปตัวไอ
รูปที่ 5
ถ้าพิจารณาหน้าตัดของคานรูปตัว I ดังรูปที่ 5(ก) จะเห็นว่าความเค้นเฉือน เขียนรูปบนกระดาน
จะเป็นศูนย์ที่ผิวนอกจาก a ถึง b และจาก c ถึง d แต่ว่าในช่วงจาก b ถึง c ใน ประกอบการอธิบาย
ระดับเดียวกันค่าความเค้นเฉือนจะมีค่าไม่เท่ากับศูนย์ ฉะนั้นจะเกิดความไม่
VQ
ต่อเนื่องของความเค้นเฉือนขึ้นที่ระดับนี้ แต่เนื่องจากสูตร ได้มาจาก C 20
Ib
การที่สมมติให้ความเค้นเฉือนมีค่าคงที่ตลอดความกว้าง b ฉะนั้นสูตรนี้จึงใช้ ใช้ทักษะการเสริมแรง
ส าหรับหาความเค้นเฉือนได้เฉพาะในสันกลางเท่านั้น อย่างไรก็ตามถ้าปีก (Reinforcement Skill) โ ด ย
(flange) มีขนาดบางพอสมควร จากการค านวณหาโดยใช้ทฤษฎีที่ซับซ้อนกว่าจะ เน้นเสียง เพื่อเป็นการกระตุ้น
พบว่า การกระจายของความเค้นเฉือนมีลักษณะดังรูปที่ 5(ข) ผู้เรียนมีความสนใจในการ
ส าหรับคานรูปหน้าตัดเป็นรูปตัว I โดยทั่ว ๆ ไป จากการค านวณจะเห็นได้ เรียน
ว่าความเค้นเฉือนในแนวดิ่งที่ขนานกับพื้นที่หน้าตัดใน flange มีค่าน้อยมาก แรง
เฉือนเกือบทั้งหมด (ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์) web จะเป็นตัวรับไว้ ดังนั้น อธิบายลักษณะของการ
โดยทั่วไปเราก็จะสมมติว่าเฉพาะ web เท่านั้นจะเป็นตัวรับแรงเฉือนไว้ทั้งหมด รับแรงเฉือน
ดังนั้นสมการที่เราจะใช้หาความเค้นเฉือนคือ
อธิบายตัวแปรต่างๆ
VQ
t I.
เมื่อ คือความเค้นเฉือนในคาน
I คือโมเมนต์ของความเฉื่อยรอบแกนสะเทิน ผู้เรียน :
V คือแรงเฉือนในแนวดิ่ง ฟังการบรรยาย และจด
t คือความหนาของ web บันทึก พร้อมกับร่วมกิจกรรม
Q คือโมเมนต์ของพื้นที่รอบแกนสะเทิน a y ซึ่งก็สามารถหาได้ ตามที่ผู้สอนก าหนดขึ้น
เหมือนในตอนต้น

