Page 13 - วารสารโรงพยาบาลสุรินทร์ ฉบับ 41
P. 13
สถานการณ์วัคซีน COVID-19 วัคซีนในยุคแรกๆ เช่น วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า อย่างไรก็ตามการ
ื
้
�
ี
และข้อมูลเปรียบเทียบ ผลิตวัคซีนชนิดน ต้องเพาะเช้อจานวนมากในห้องชีวนิรภัย
ท�าให้มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าวัคซีนประเภทอื่น
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซ่งปัจจุบัน 5.Sinopharm (Sinovac®) ประเทศจีน
ึ
มีผู้ติดเช้อท่วโลกกว่าหน่งร้อยล้านคน และในประเทศไทย 6.Bharat Biotech (Covaxin®) ประเทศอินเดีย
ั
ื
ึ
ั
ี
มีการระบาดระลอกใหม่ท่มีแนวโน้มรุนแรงกว่าคร้งแรก วัคซีนทุกประเภทมีวิธีการให้เหมือนกันคือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
ความหวังท่จะหยุดย้งการแพร่ระบาดคือ วัคซีนป้องกันโรค 2 ครั้ง ห่างกัน 21 – 28 วัน อาการไม่พึงประสงค์ที่พบส่วนมาก
ี
ั
ุ
ิ
ี
ี
่
ี
ี
ท่บริษัทผลิตวัคซีนและสถาบันทางแพทย์ต่างเร่งพัฒนา เพ่อให้ได้ ไม่รนแรง เช่น อาการปวดบวมบรเวณทฉดยา มไข้ ปวดศรษะ
ี
ื
ึ
ี
วัคซีนท่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยให้แก่ประชากรโลก ซ่งแต่ละชนิดมีข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย
�
ี
ั
โดยเร็วท่สุด ปัจจุบันท่วโลกมีวัคซีน COVID-19 ท่พัฒนาและ แตกต่างกันออกไป การพิจารณาเลือกใช้จึงควรคานึงถึง
ี
ออกสู่ท้องตลาดแล้ว 6 ชนิด คือ ปัจจัยต่างๆ อย่างครอบคลุม เช่น แม้ว่ากลุ่ม mRNA วัคซีน
�
กลุ่ม RNA วัคซีน ผลิตจาก mRNA ซึ่งกรรมวิธีผลิตวัคซีน จะมีประสิทธิภาพสูง สามารถผลิตได้จานวนมาก แต่การเก็บ
ู
่
ั
ี
่
�
ึ
ี
ี
�
แบบใหม่ท่สังเคราะห์สารพันธุกรรมไวรัสท่จาเพาะต่อโปรตีน รกษาและขนส่งทต้องควบคุมอุณหภูมิตากว่าศนย์ รวมถงม ี
ื
ี
ท่ไวรัสใช้ในการเข้าสู่เซลล์ของมนุษย์ (spike protein) รายงานอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง เม่อให้ในกลุ่มประชากร
ื
ี
ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะกระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อ ขนาดใหญ่ก็เป็นข้อควรพิจารณา ส่วนกลุ่มวัคซีนเช้อตายท่ม ี
ี
1.Pfizer/BioN-Tech (Comirnaty®) ประเทศสหรัฐอเมริกา ความปลอดภัยสูง แต่ประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันท่ด้อยกว่า
ี
ี
2.Moderna (mRNA-1273®) ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงราคาท่แพงกว่าจากต้นทุนการผลิตท่สูงกว่า วัคซีน
กลุ่ม Viral vector คือวัคซีนที่สร้างโดยการนาสารพันธุกรรม ประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีวัคซีนกลุ่ม viral vector ที่อยู่ใน
�
ั
ิ
ี
ของไวรัส COVID-19 ใส่ไปในไวรัสที่ไม่ก่อโรคในมนุษย์ เมื่อให้ ระหว่างการพฒนาอก เช่น บรษัท Johnson & Johnson’s
ี
ึ
ไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ก็จะสร้างโปรตีน ซ่งสามารถไปกระตุ้นให้เกิด ท่มีรายงานการศึกษาว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงภายหลัง
ี
ี
ภูมิคุ้มกันต่อไวรัส COVID-19 ได้ วิธีน้เป็นการผลิตวัคซีนท่ใช้กันมา การฉีดวัคซีนครั้งเดียว (single dose) แม้ว่าวัคซีนท่มีอยู่ใน
ี
ั
ี
�
ยาวนาน มีข้อดีคือสามารถผลิตได้จานวนมากและวัคซีนมีความ ขณะน้จะเป็นความหวังในการหยุดย้งในการแพร่ระบาดไวรัส
ึ
ั
คงทนมากกว่าแบบแรก COVID-19 วัคซีนท้งหมดล้วนแต่ได้รับการอนุมัติให้ข้นทะเบียน
ั
ั
3.Oxford/Astra Zeneca (Covisheild®) ประเทศองกฤษ ในสถานการณ์เร่งด่วน (emergency condition) ดังน้นการ
4.Gamaleya (Sputnik V®) ประเทศรัสเซีย เฝ้าระวังในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว
ื
�
ี
กลุ่มวัคซีนเช้อตาย ผลิตจากไวรัสท่ผ่านกระบวนการทาลายฤทธ ิ ์ (long term safety) ก็ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป
�
ิ
ั
้
หรอฆ่าเชอแล้ว นามาผลตวคซน ซงเป็นเทคโนโลยการผลต เรียบเรียง : ภก.รังสฤษดิ์ ไชยพรรค
ื
ื
ี
ี
ิ
ึ
่
งานเภสัชสนเทศ กลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.สุรินทร์
อ้างอิง
1. Forni, G., Mantovani, A., on behalf of the COVID-19 Commission of Accademia Nazionale dei Lincei, Rome. et al. COVID-19 vaccines: where we stand and challenges
ahead. Cell Death Differ (2021). https://doi.org/10.1038/s41418-020-00720-9
2. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/index.html
3. https://www.who.int/news-room/q-a-detail/coronavirus-disease-(covid-19)-vaccines
11

