Page 8 - วารสารโรงพยาบาลสุรินทร์ ฉบับ 41
P. 8
อันตรายของการบริโภคไขมันทรานส์ เราสามารถหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ได้โดย
ี
ี
- หลีกเล่ยงอาหารท่มีส่วนผสมของเนยเทียม (margarine)
นางสมนึก โตมะสูงเนิน
ั
นักโภชนาการชำานาญการพิเศษ, หัวหน้ากลุ่มงานโภชนศาสตร์ หรือเนยขาว (shortening) รวมท้งมาการีน ครีมเทียม วิปปิ้งครีม
เช่น เค้ก คุกกี้ ฟาสต์ฟู้ด ขนมอบกรอบ ขนมขบเคี้ยว
ี
ิ
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นกรดไขมันไม่อ่มตัวท่บริเวณ - อ่านฉลากโภชนาการทุกคร้ง และหลีกเล่ยงผลิตภัณฑ์
ั
ี
พนธะค่มการจดเรยงตวของไฮโดรเจนอะตอมอย่ตรงข้ามกน ที่มีข้อความว่า “partially hydrogenated oil” อยู่บนฉลาก
ั
ั
ั
ั
ู
ี
ี
ู
ั
ิ
สามารถพบได้ ท้งในธรรมชาต และจากกระบวนการเติม - หลีกเลี่ยงอาหารทอด เช่น มันฝรั่งทอด ไก่ทอด นักเกต
ไฮโดรเจนบางส่วนลงในน�้ามัน ปาท่องโก๋
้
�
�
�
้
ไขมันทรานส์จากธรรมชาติ พบได้ในเนื้อวัว ควาย ซึ่งเป็น - เลือกใช้นามันพืช เช่น นามันมะกอก นามันราข้าว
�
้
ี
ื
ี
สัตว์เค้ยวเอ้อง และผลิตภัณฑ์ท่ได้จากสัตว์ดังกล่าว เช่น นม เนย น�้ามันถั่วเหลือง น�้ามันข้าวโพด
ี
ชีส แต่พบในปริมาณเพียงเล็กน้อย - ด่มนมไขมันตา (low fat milk) หรือนมท่ไม่มีไขมัน (skim
่
ื
�
ไขมันทรานส์จากกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน milk) แทนนมไขมันเต็มส่วน (whole milk)
ี
(Partial Hydrogenation) ลงไปในนามันท่มีกรดไขมันไม่อ่มตัวสูง - ลดหรือเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ไขมันสูง ถ้าเป็นไป
ิ
้
�
ี
้
ึ
ซ่งนามันท่ผ่านกระบวนการดังกล่าวจะเรียกว่า Partially ได้ควรเลือกกินเนื้อปลาและเนื้อสัตว์ไม่ติดมันจะปลอดภัยกว่า
�
�
�
Hydrogenated Oil ทาให้นามันท่อยู่ในสภาพของเหลว - กินผักและผลไม้ทุกมื้อ
ี
้
เปล่ยนเป็นไขมันท่มีสภาพแข็งข้นหรือเป็นของก่งเหลว พบใน ที่มา : สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ี
ึ
�
ึ
ี
อุตสาหกรรมเนยเทียม (margarine) หรือเนยขาว (shortening)
ึ
ซ่งไขมันดังกล่าวจะหืนช้า และมีอายุการเก็บรักษานานข้น
ึ
ี
อาหารท่ผ่านการทอด โดยใช้นามันท่ผ่านกระบวนการเติม
ี
้
�
ไฮโดรเจนบางส่วน แบบน�้ามันท่วม (Deep frying) ซึ่งต้องใช้
ี
ี
อุณหภูมิสูง เพ่อให้ผลิตภัณฑ์มีลักษณะสัมผัสท่ด กรอบนอก นุ่มใน
ื
และมีสีเหลืองน่ารับประทาน เช่น โดนัททอด เฟรนซ์ฟรายส์
โรต ผลิตภัณฑ์เบเกอร เช่น ขนมปังกรอบ เค้ก พาย พัฟ
ี
ี
เพสตรีครัวซองต์ และคุกกี้ เป็นต้น
อันตรายจากไขมันทรานส์
ไขมันทรานส์ให้ผลร้ายกว่ากรดไขมันอิ่มตัว คือ ท�าให้ระดับ
โคเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) ไขมันชนิดเลว (LDL-
Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เพิ่มขึ้น และ
มีผลทาให้ระดับไขมันชนิดด (HDL-Cholesterol) ลดลง
�
ี
ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ปริมาณที่สามารถบริโภคได้ต่อวัน
องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ (Food and
Agriculture Organization, FAO) แนะนาปริมาณสูงสุดในการ
�
บริโภคไขมันทรานส์ ต้องไม่เกิน 1% ของค่าพลังงานต่อวัน (หรือ
ประมาณ 2 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค)
�
ิ
อย่างไรก็ตาม FAO ยังแนะนาปริมาณสูงสุดในการบริโภคไขมันอ่มตัว
ที่ไม่เกิน 10% ของค่าพลังงาน (หรือประมาณ 20 กรัมต่อวัน
หรือประมาณ 5 กรัมต่อมื้อ) ไว้ด้วย เนื่องจากตระหนักว่าไขมัน
ั
ท้งสองประเภท ยังเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ดังนั้น จึงต้องควบคุมปริมาณการบริโภคร่วมกัน
6

