Page 44 - แฟ้มสะสมผลงาน2.63
P. 44

กิจกรรมการเรยี นรู้

       ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน
       ๑. ครนู าเสนอภาพสญั ลกั ษณ์อกั ษรเทวนาครี อ่านว่า “โอม” ของศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู พรอ้ มทงั้ การตงั้
ประเดน็ คาว่า “หากนักเรยี นเหน็ สญั ลกั ษณ์น้นี กั เรยี นคดิ ถงึ อะไรไดบ้ า้ ง” โดยครใู หน้ ักเรยี นออกมาเขยี นคาตอบหน้าชนั้
เรยี นทลี ะคน
       ๒. ครูและนักเรยี นประมวลคาตอบเก่ียวกับภาพสญั ลักษณ์อักษรเทวนาครี อ่านว่า “โอม” ของศาสนา
พราหมณ์-ฮนิ ดู ทน่ี ักเรยี นแต่ละคนเป็นคนเขยี น พรอ้ มทงั้ เช่อื มโยงเขา้ สู่บทเรยี น โดยการตงั้ คาถามและให้นักเรยี น
เขยี นคาตอบลงในสมุดบนั ทกึ เพอ่ื ประเมนิ ความรพู้ น้ื ฐานของนกั เรยี น ดงั น้ี

           “สญั ลกั ษณ์ดงั กล่าวเขา้ ส่ปู ระเทศไทยไดอ้ ยา่ งไร”
           “สญั ลกั ษณ์ดงั กลา่ วเกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มคนใดในสงั คมไทยบา้ ง”
           “สญั ลกั ษณ์ดงั กล่าวเกย่ี วขอ้ งกบั ศาสนาใด และมจี ุดมุ่งหมายของศาสนาคอื อะไรจุดมุ่งหมายของศาสนา
       คอื อะไร”
       ๓. ครูประเมินคาตอบของนักเรียน และนาเข้าสู่บทเรียนว่า “สัญลกั ษณ์ดังกล่าวเก่ียวข้องกับศาสนา
พราหมณ์-ฮนิ ดู ซง่ึ เป็นศาสนาทเ่ี ก่าแก่ ศาสนาหน่ึงในโลก มอี ทิ ธพิ ลต่อความคดิ ความเชอ่ื การดารงชวี ติ ของมนุษย์ใน
กล่มุ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตเ้ ป็นอยา่ งมาก ดงั นนั้ เราจงึ ตอ้ งจาเป็นทจ่ี ะเรยี นรคู้ วามเป็นมา จดุ ม่งุ หมาย และอทิ ธพิ ลของ
ศาสนาพราหมณ์ ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ มนุษยชาต”ิ

       ขนั้ สอน
       ๕. ครอู ธบิ ายหลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู โดยเปิดวดี ทิ ศั น์ใหน้ ักเรยี นดู
       ๖. ครจู ดั กลุ่มนักเรยี นโดยคละความสามารถ โดยใชเ้ ทคนิคกล่มุ รว่ มมอื กนั เรยี นรู้ (Group Investigation:GI)
แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 5-6 คน
       หลงั จากนัน้ นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันพจิ ารณาคาถามต่างๆ ในกลุ่มท่ตี นเองสนใจ และเลอื กประเดน็ ท่จี ะ
ศกึ ษาอิสระ ภายใต้หวั ขอ้ “ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูทฉี่ ันอยากรู้จกั ” กลุ่มนักเรยี นจะกาหนดเป้าหมายของงานกลุ่ม
มอบหมายภาระงานในกล่มุ แลว้ ศกึ ษาเรอ่ื งทต่ี นเองไดร้ บั มอบหมายใหศ้ กึ ษา
       บทบาทของครู คือ แนะนาแหล่งขอ้ มูลท่สี าคญั ในท่นี ้ีคอื หนังสอื เรยี นวิชาหน้าท่ีพลเมอื งและศลี ธรรม ของ
บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั หน่วยท่ี ๑๒ ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู หน้าท่ี ๒๓๐-๒๓๙
       ๗. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลงานการศกึ ษาทค่ี น้ ควา้ หรอื คาตอบของกลุ่มตนเองหน้าชนั้ เรยี น โดยครจู ะ
เป็นผปู้ ระสานงานการเสนอรายงานทงั้ หมดของทุกกลุ่ม สมาชกิ แต่ละกลุ่มจะตอ้ งร่วมกนั พจิ ารณาว่าจะนาเสนอขอ้ มูล
อยา่ งไรใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด สมาชกิ จะมวี ธิ เี สนองาน เตรยี มส่อื ทเ่ี หมาะสมอย่างไร
       ๘. ครูประเมนิ ผลงานกลุ่มของผเู้ รยี นในการนาเสนอ พรอ้ มทงั้ สรุปองค์ความรจู้ ากทุกกลุ่ม เก่ยี วกบั ศาสนา
พราหมณ์-ฮนิ ดู ดงั น้ี

           หลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ไดแ้ ก่
       หลกั อาศรม ๔ หมายถงึ ขนั้ ตอนของชวี ติ ในการปฏบิ ตั ติ นตามวยั เพ่อื ให้ชวี ติ ดขี น้ึ แบ่งเป็น 4 ระยะ คอื

               -พรหมจารี ในช่วงเวลา ๒๕ ปีแรกของชวี ติ เป็นไปเพ่อื การศกึ ษาเล่าเรยี นวชิ าตามวรรณะของตน
           จนจบการศกึ ษา

               -คฤหัสถ์ ช่วง ๒๕ ปีหลงั จากสาเรจ็ การศกึ ษา จนถึงอายุ ๕๐ ปี เป็นระยะของการครองเรอื นช่วย
           บดิ ามารดาประกอบอาชพี และปฏบิ ตั พิ ธิ กี รรมตามหน้าทข่ี องตน

               -วานปรสั ถ์ ๒๕ ปี ตอ่ จากอายุ ๕๐ ปี จนถงึ อายุ ๗๕ ปี ละชวี ติ ผู้ครองเรอื น ออกบาเพญ็ ตบะไปอยู่
           อาศรมในป่า เป็นฤๅษี โยคี ดาบส นกั พรต ตามแต่ลกั ษณะการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ

               -สนั ยาสี ระยะ ๒๕ ปีสดุ ทา้ ยของชวี ติ สาหรบั ผแู้ สวงหาโมกษะความหลดุ พน้ จากสงั สารวฏั
           ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ส่งผลกระทบต่อเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ในหลายดา้ น ดงั น้ี
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49