Page 60 - แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย
P. 60

54

              ความหมายของการจัดการความรู้
                     การจัดการ (Management) หมายถึง กระบวนการในการเข้าถึงความรู้ และการถ่ายทอด ความรู้ที่ต้องดำเนินการ่วมกันกับ
                                          ี้
                                                        ้
              ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งอาจเริ่มต้นจากการบ่งชความรู้ที่ต้องการใช การ สร้างและแสวงหาความรู้ การประมวลเพื่อกลั่นกรองความรู้ การจัดการ
              ความรู้ให้เป็นระบบ การ สร้างช่องทางเพื่อการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้อง การแลกเปลี่ยนความรู้ การจัดการสมัยใหม่กระบวนการ ทางปัญญา
              เป็นสิ่งสำคัญในการคิด ตัดสินใจ และส่งผลให้เกิดการกระทำ การจัดการจึงเน้นไปที่ การปฏิบัติ
                                                                                                            ื่
              ความรู้ (Knowledge) หมายถึง ความรู้ที่ควบคู่กับการปฏิบัติ ซึ่งในการปฏิบัติจำเป็น ต้องใชความรู้ที่หลากหลายสาขาวิชามาเชอมโยง
                                                                                  ้
              บูรณาการเพื่อการคิดและตัดสินใจ และลงมือปฏิบัติ จุดกำเนิดของความรู้คือสมองของคน เป็นความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในสมอง ชี้แจงออกมาเป็น
              ถ้อยคำหรือ ตัวอักษรได้ยาก ความรู้นั้นเมื่อนำไปใช้จะไม่หมดไป แต่จะยิ่งเกิดความรู้เพิ่มพูนมากขึ้นอยู่ในสมอง ของผู้ปฏิบัติ

                                       ุ
              ในยุคแรก ๆ มองว่า ความรู้ หรือทนทางปัญญา มาจากการจัดกระบวนการตีความ สารสนเทศ ซึ่งสารสนเทศก็มาจากการประมวลข้อมูล
              ขั้นของการเรียนรู้
              ความรู้แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
                     ความรเดนชัด (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่เป็นเอกสาร ตำรา คู่มือปฏิบัติงาน สื่อต่าง ๆ กฎเกณฑ์ กติกา ข้อตกลง
                            ่
                          ู้
              ตารางการทำงาน บันทึกจากการทำงาน ความรู้เด่นชัดจึงมี ชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ความรู้ในกระดาษ”
              2. ความรู้ซ่อนเร้น / ความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่แฝงอยู่ในตัวคน พัฒนาเป็นภูมิปัญญา ฝังอยู่ในความคิด ความเชอ
                                                                                                                ื่
              ค่านิยม ทคนได้มาจากประสบการณ์สั่งสมมา นาน หรือเป็นพรสวรรค์อันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่มีมาแต่กำเนิด หรือเรียกอีก
                     ี่
              อย่างหนึ่ง ว่า “ความรู้ในคน” แลกเปลี่ยนความรู้กันได้ยาก ไม่สามารถแลกเปลี่ยนมาเป็นความรู้ที่เปิดเผยได้ ทั้งหมด ต้องเกิด
              จากการเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านการเป็นชุมชน เช่นการสังเกต การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างการทำงาน หากเปรียบความรู้เหมือนภูเขาน้ำแข็ง
                                                                                    ี
              ส่วนของน้ำแข็งที่ลอยพ้นน้ำ เปรียบเหมือนความรู้ที่เด่นชด คือความรู้ที่อยู่ในเอกสาร ตำรา ซีดี วดีโอ หรือสื่ออน ๆ ที่จับต้องได้ ความรู้นี้
                                                       ั
                                                                                              ื่
              มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์
              ส่วนของน้ำแข็งที่จมอยู่ในน้ำ เปรียบเหมือนความรู้ที่ยังฝังลึกอยู่ในสมองคน มีความรู้จาก สิ่งที่ตนเองได้ปฏิบัติ ไม่สามารถถ่ายทอดออกมา
              เป็นตัวหนังสือให้คนอื่นได้รับรู้ได้ ความรู้ที่ฝังลึกใน ตัวคนนี้มีประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์
              ความรู้ 2 ยุค
                     ความรยุคที่ เน้นความรู้ในกระดาษ เน้นความรู้ของคนส่วนน้อย ความรู้ที่สร้างขึ้นโดย นกวิชาการที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน
                          ู้
                                                                                     ั
                                                                                    ี่
              เรามักเรียกคนเหล่านั้นว่า “ผู้มีปัญญา” ซึ่งเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้ ไม่มีปัญญา ไม่สนในทจะใช้ความรู้ของคนเหล่านั้น โลกทัศน์ใน
              ยุคที่ 1 เป็นโลกทัศน์ที่ คับแค้น
                          ู้
                     ความรยุคที่ เป็นความรู้ในคน หรืออยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างคน เป็นการค้นพบ “ภูมิปัญญา” ที่อยู่ในตัวคน ทุกคนมีความรู้
                                                                                                          ั้
              เพราะทุกคนทำงาน ทุกคนมีสัมพันธ์กับผู้อื่น จึงย่อมมี ความรู้ที่ฝังลึกในตัวคนที่เกิดจากการทำงาน และการมีความสัมพันธ์กันนน เรียกว่า
              “ความรู้อันเกิด จากประสบการณ์” ซึ่งความรู้ยุคที่ 2 นี้มีคุณประโยชน์ 2 ประการ คือประการแรก ทำให้เราเคารพ ซึ่งกันและกัน
                                                                            ้
              ต่างก็มีความรู้ ประการที่ 2 ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรที่มีความเชอเชนนี้ สามารถใช ศักยภาพแฝงของทุกคนในองค์กรมาสร้างผลงาน
                                                               ื่
                                                                 ่
              สร้างนวัตกรรมให้กับองค์กร ทำให้องค์กรมีการ พัฒนามากขึ้น
              การจัดการความรู้
                     การจัดการความรู้ (Knowledge Management) หมายถึง การจัดการกับความรู้และ ประสบการณ์ที่มีอยู่ในตัวคนและความรู้
              เด่นชด นำมาแบ่งปันให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว ด้วยการผสมผสานความสามารถของคนเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสม มี
                  ั
              เป้าหมาย   เพื่อการพัฒนางาน พัฒนาคน และพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้
              ในปัจจุบันและในอนาคต โลกจะปรับตัวเข้าสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งความรู้กลาย เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคน ทำให้คน
              จำเป็นต้องสามารถแสวงหาความรู้ พัฒนาและสร้าง องค์กรความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำพาตนเองสู่ความสำเร็จ และนำพาประเทศชาติไปสู่
              การพัฒนา มีความเจริญก้าวหน้าและสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
                     การจัดการความรู้เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติ นำผลจากการปฏิบัติมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กัน เสริมพลังของการแลกเปลี่ยน
              เรียนรู้ด้วยการชนชม ทำให้เป็นกระบวนการแห่งความสุข ความภูมิใจ และการเคารพเห็นคุณค่าซึ่งกันและกัน ทักษะเหล่านี้นำไปสู่การ
                          ื่
              สร้างนิสัยคิดบวกทำบวก มองโลก ในแงดี และสร้างวัฒนธรรมในองค์กรที่ผู้คนสัมพันธ์กันด้วยเรื่องราวดี ๆ ด้วยการแบ่งปันความรู้ และ
                                           ่
              แลกเปลี่ยนความรู้จากประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยที่กิจกรรมเหล่านี้สอดคล้องแทรกอยู่ในการ ทำงานประจำทุกเรื่อง ทุกเวลา
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65