Page 71 - แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย
P. 71
65
ใบความรู้ที่ 1
ความหมาย ความสำคัญของการวิจัย
้
เมื่อได้ยินคำว่า “การวิจัย” คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ทำยาก มีขั้นตอนมาก ต้องใชเวลานาน ต้องมีความรู้ในการสร้าง
เครื่องมือการวิจัย และการใช้สถิติต่างๆ ทำให้หลายคนไม่อยากทำวิจัย
้
ข้อเท็จจริงคือ การวิจัยมีหลายระดับตั้งแต่ระดับยากๆ ซับซ้อน ที่ต้องใชความรู้ทางวิชาการด้านต่างๆ และใชเวลาเป็นปี ๆ
้
ในการทำวิจัยแต่ละเรื่อง จนถึงการวิจัยที่งายๆ แม้แต่เด็กอนุบาลหรือเด็กประถมในเมืองนอกก็มีการทำวิจัยหรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า
่
Research เป็นว่าเล่น ดังนั้นการวิจัยจึงไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเสมอไป
คำถามคือ การวิจัยคืออะไร ทำไมต้องทำวิจัย ทำแล้วได้ประโยชน์อย่างไร การวิจัยเป็นการหาคำตอบที่อยากรู้ ที่สงสัย ที่เป็น
ปัญหาข้อข้องใจ แต่คำตอบนั้นต้องเชื่อถือได้ ไม่ใช่การคาดเดา หรือคิดสรุปไปเองโดยใช้ความรู้สึก วิธีการหาคำตอบจึงต้องเป็นกระบวนการ
ขั้นตอนอย่างเป็นระบบ
ตัวอย่าง เช่น ถ้าต้องการทราบว่านักร้องในดวงใจของนักศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายใน ศรช. วัดแจ้งเป็นใคร จะคาดเดาเอาเอง
ั
หรือไปสอบถามนักศึกษาเพียงคน สองคน แล้วมาสรุปว่านักร้องในดวงใจของนักศึกษาตอนปลายใน ศรช. วดแจ้ง เป็นคนนั้น คนนี้ไม่ได้
แต่ต้องทำแบบสอบถามไปให้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของนักศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายใน ศรช. วัดแจ้ง เป็นผู้ตอบ แล้วนำมาสรุป
คำตอบข้อค้นพบที่ได้ เป็นต้น
ผลที่ได้จากการทำวิจัย นอกจากจะได้รับคำตอบที่ต้องการรู้แล้ว ผู้วิจัยเองก็ได้ประโยชน์จากการทำวิจัย คือ การเป็นคนชางคิด
่
ช่างสังเกต ศึกษาค้นคว้าหาความรู้และเขียนเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ นอกจากนั้นการวิจัยจะเกิดประโยชน์ในภาพรวม ดังนี้
1. การวิจัยทำให้เกิดความรู้ทางวิชาการใหม่ๆ
2. การวิจัยช่วยให้เกิดนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ แนวคิดใหม่ๆ
3. การวิจัยช่วยตอบคำถามที่อยากรู้ ให้เข้าใจปัญหาและช่วยในการแก้ไขปัญหา
4. การวิจัยช่วยในการวางแผนและการตัดสินใจ
5. การวิจัยช่วยให้ทราบผลและข้อบกพร่องจากการดำเนินงาน
กระบวนการและขั้นตอนการทำวิจัยอย่างง่าย
การทำวิจัย ดำเนินการเป็นขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนแรก มักจะเริ่มต้นจากผู้วิจัยอยากรู้อะไร มีปัญหาข้อสงสัยอะไร เป็นขั้นตอนการกำหนดคำถามวิจัย/ปัญหาวิจัย
ตัวอย่างคำถามการวิจัย เช่น นักร้องในดวงใจวัยรุ่นคือใคร นักการเมืองในดวงใจวัยรุ่นคือใคร วัยรุ่นใช้เวลาว่างทำอะไร เป็นต้น
ตัวอย่างปัญหาวิจัย เช่น ปัญหาการติดเกมส์ของวัยรุ่น ปัญหาการใช้เวลาว่างของวัยรุ่น ฯลฯ เป็นต้น
เมื่อกำหนดคำถามการวิจัย/ปัญหาวิจัยแล้ว
ขั้นตอนที่สอง คือ การเขียนโครงการวิจัย ซึ่งต้องเขียนก่อนการทำวิจัยจริง โดยเขียนให้ครอบคลุมว่า จะทำวิจัยเรื่องอะไร
ื่
(ชอโครงการวิจัย) ทำไมจึงทำเรื่องนี้ (ความเป็นมาและความสำคัญ) อยากรู้อะไรบ้างจากการวิจัย (วัตถุประสงค์ของการวิจัย) มีแนวทาง
ขั้นตอนการดำเนินงานวิจัยอย่างไร (วิธีดำเนินการวิจัย) ระยะเวลาการวิจัยและแผนการดำเนินงาน (ปฏิทินปฏิบัติงาน) การวิจัยนี้
จะเป็นประโยชน์อย่างไร (ประโยชน์ของการวิจัยหรือผลที่คาดว่าจะได้รับ)
ขั้นตอนที่สาม คือการดำเนินงานวิจัยตามแผนที่กำหนดไว้ในโครงการวิจัย
ขั้นตอนที่สี่ คือการเขียนรายงานการวิจัย ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหัวข้อ คือ
1. ชื่อเรื่อง
2. ชื่อผู้วิจัย
3. ความเป็นมาของการวิจัย
4. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
5. วิธีดำเนินการวิจัย
6. ผลการวิจัย
7. ข้อเสนอแนะ
8. เอกสารอ้างอิง (ถ้ามี)
ขั้นตอนสุดท้าย คือ การเผยแพร่ผลงานวิจัย เพื่อให้บุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลงานวิจัยนี้ไปใช้ประโยชน์ต่อไป

