Page 14 - โครงงาน เรื่อง การศึกษาเเนวคิดเเละกลวิธีการใช้ภาษาในหนังสือการ์ตูนมังงะ
P. 14

6


                                                          ้
               ต่อไปอย่างมืดบอด? ซึ่งภายในเนื้อเรื่องนั้น “แก่นแท” ถูกเสนอผ่านภาพของความน่าเกลียด น่ากลัว สยดสยอง ไม่
               ว่าผู้ใดที่ผ่านเข้าประตูไปนั้นจักต้องพบกับความโศกเศร้า บาป ความเลวร้ายนานาชนิดที่ถูกฉายออกมาให้ประจักษ ์

               สายตาผ่านค าว่า “แก่นแท้”


                       ประเด็นถัดมา ประเด็นเรื่องความสัมพัทธ์ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม และ ศีลธรรมภายในชีวิตมนุษย์

               การ์ตูนเรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงการเหยียดชาติพันธุ์สีผิวและความแตกต่างที่เห็นได้ชัดภายในประเทศอเมทริส
               (Ametris) โดย Marcano ชี้ว่าเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม หรือศีลธรรมนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงไปตาม

               กลุ่มสังคมหรือตามแต่ละบุคคล (morality is relative to the person) ท าให้มาตรวัดหนึ่งๆ หรือ ค่านิยม ศีลธรรม

               ความคิดภายในวัฒนธรรมหนึ่งๆนั้นไม่สามารถที่จะถูกน าไปใช้ได้ในอกกลุ่มวัฒนธรรมหนึ่งๆเหตุเพราะเรื่อง
                                                                       ี
               วัฒนธรรมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเป็นสากลได้มันจึงเกิดคาถามตามมาว่าเมื่อมันเกิดวัฒนธรรมอย่างการตอน การ

               ตัดคลิตอริส (genital mutilation) การกระทาความรุนแรงต่อสัตว์ (animal abuse) ในสังคมอื่นๆเราในฐานะผู้คน

               ต่างวัฒนธรรมมีสิทธิที่จะเดินเข้าไปห้ามปรามหรือประณามพวกเขาหรือไม่?   (เมื่อมองในกรอบเดียวกับที่ว่าสิ่ง

                                                                                                ้
               เหล่านั้นก็หมายรวมอยู่ในค าว่า “วัฒนธรรม” เช่นเดียวกับเรื่องการไหว้ การฮาราคีรี และการจูบแกม) ซึ่ง Arakawa
               ก็ได้พยายามยกตัวอย่างให้เห็นภายในเรื่องเองว่าความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความคิด และมาตรฐานทางศีลธรรม

               น ามาสู่ความขัดแย้ง และสงคราม นั่นก็คือสงครามกลางเมืองอิชวาลในทางฝั่งตะวันออก (The Ishvalan War) ที่

               เกิดจากความแตกต่างทางศาสนา วัฒนธรรม ที่ปะทุขึ้นจากกรณีที่นายทหารจากรัฐบาลอเมทริสนายหนึ่งเกิดยิงเด็ก

               ชาวอิชวาลเสียชีวิต  และได้มีการน านักเล่นแร่แปรธาตุของรัฐมาใช้ในสงครามพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอิชวาลไม่

               เว้นแม้แต่เด็กและผู้หญิงที่ล้วนถูกมองเป็นพลเมืองชั้นสองอีกด้วย


                       นอกจากประเด็นชาวอิชวาลแล้วยังมีประเด็นของนักเล่นแร่แปรธาตุของทางกองทัพที่ชื่อShou Tucker ที่

               มีฉายาว่านักเล่นแร่แปรธาตุผสานชีวิต (Sew-Life Alchemist) ที่ได้ฉายถึงประเด็นดังกล่าวไม่น้อยไปกว่ากัน การ

               ท าการทดลองกับมนุษย์ของเขาถูกมองและกล่าวหาว่าเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณ  และจริยธรรมในหมู่นักเล่นแร่
               แปรธาตุ (เช่นเดียวกับการทดลองและการท าวิจัยทางวิทยาศาสตร์กับร่างกายมนุษย์ในปัจจุบันที่ยังไม่ค่อยเปิดกว้าง

               เท่าใดนัก) ค าถามที่ว่า “ร่างกายมนุษย์นั้นจะ[พัฒนา]ไปได้ไกลเท่าใด” เป็นค าถามที่Shou หลงใหลและเป็นแนวคิด

               หลักของShou  ในการท าวิจัยเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์และสัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่  โดยพยายามจะน าคุณสมบัติพิเศษของ

               สัตว์ต่างๆมาดัดแปลงตัดแต่งเพื่อเพิ่มความสามารถให้แก่มนุษย์ เรียกว่า การทดลองโครงการคิเมร่า (chimera) อัน

               เป็นโครงการวิจัยที่Shou  ตั้งใจจะพัฒนาท าให้ส าเร็จเพื่อที่จะเข้ารับการประเมินประจ าปีจากกองทัพ  และขอให้

               กองทัพสนับสนุนทุนวิจัยแก่เขาต่อไป  โดยการประเมินผลครั้งแรกนั้น  Shouได้ใช้ภรรยาตนเองเป็นหนูทดลองใน

               การสร้างคิเมร่าที่พดได้ท าให้กองทัพยอมสนับสนุนโครงการของเขาจนถึงเวลานั้นแต่ด้วยระยะเวลาการตรวจ
                               ู
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19