Page 51 - combine ต.ค.64 (2)_Neat
P. 51
�
ทางเยอรมันเสียทหาร ๒,๕๕๑ คน เรือประจัญบาน ๑ ลา เรือตอร์ปิโด ๔ ล�า เรือด�าน�้า ๒ ล�า เรือขนาดเบา ๒ ล�า
เรือลาดตระเวนสงคราม ๑ ล�า เรือลาดตระเวนเบา ๔ ล�า และเรือขนาดเล็ก ๓ ล�า
�
และเรือพิฆาต ๕ ลา เป็นเหตุการณ์ “ข้าศึกอยู่ไหน?” เรือที่จอดอยู่ทางใต้ของเกาะช้าง มีเรือลาดตระเวน
�
�
ื
คร้งหน่งของสงครามใหญ่ในโลก ชายฝั่ง ๑ ลา และเรือขนาดเบา ๓ ลา (เม่อธนบุรีรบ;
ึ
ั
ต้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๔๘๒ เกิดสงครามข้นใน พลเรือเอก จิตต์ สังขดุลย์)
ั
ึ
ี
ุ
่
่
ี
่
ุ
ั
ื
้
ั
ทวปยโรป ตอมาตนเดอนธนวาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ ญปนเรม ภารกิจของหน่วยเรือฝร่งเศสคือ ติดตาม และ
่
ิ
มหาสงครามเอเชียบูรพา ก�าลังทางเรืออังกฤษที่สิงคโปร์ ค้นหาทาลายล้างกาลังทัพเรือสยามต้งแต่สัตหีบไปจนถึง
ั
�
�
�
ประกอบด้วยเรือประจัญบาน ๑ ลา เรือลาดตระเวน พรมแดนเป็นการเส่ยงเกินไป จึงตัดสินใจผนึกกาลัง
ี
�
�
สงคราม ๑ ลา และเรือพิฆาต ๔ ลา มีฐานทัพอยู่ท ี ่ ท้งหมดมุ่งหน้าเข้าโจมตีข้าศึกท่ทอดสมออยู่ท่เกาะช้าง
ั
�
ี
ี
�
ึ
ื
ึ
สิงคโปร์ ได้ออกเรือเดินทางข้นเหนือเพ่อดักทาลายกองเรือ ในเวลาเช้าตรู่ของวันรุ่งข้น (บันทึกของหน่วยงาน
ี
ึ
ยกพลข้นบกของญ่ปุ่น แต่ไม่พบว่า “ข้าศึกอยู่ไหน?” ประวัติศาสตร์ทหารเรือฝรั่งเศส, นาวิกศาสตร์ฉบับที่ ๒
้
�
�
จึงจะเดินทางกลับสิงคโปร์ แต่ตรวจพบโดยเรือดานา ปี ๗๘) กล่าวคือรู้ว่า “ข้าศึกอยู่ไหน?” และอยู่อย่างไร
ี
�
ื
และเรือบินจากเรือลาดตระเวนญ่ปุ่น แล้วก็มีเคร่องบิน หน่วยเรือไทยก่อนการรบแยกเรือปืนหนัก ๑ ลา
ญ่ปุ่นจากฐานบินในอินโดจีนท่ญ่ปุ่นยึดครองอยู่ โจมต ี และเรือตอร์ปิโดใหญ่ ๓ ล�า จอดเรือ ๒ แห่ง ใต้เกาะช้าง
ี
ี
ี
กองเรืออังกฤษสูญเสียเรือเกือบทั้งหมด อ�านวยให้ทหาร ซ่งได้เห็นเรือบินฝร่งเศสบินลาดตระเวนท้งในวันท่ ๑๖
ึ
ั
ี
ั
ี
ญ่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรมลายูได้ในเวลาต่อมาจนถึงพม่า และวันที่ท�าการรบวันที่ ๑๗ มกราคม ซึ่งเช้าวันนี้ทหาร
�
�
มุ่งสู่อินเดีย ประจาเรือหัดกายบริหาร แล้วรีบเข้าประจาปืนต่อสู้
ื
ทหารเรือไทยก็มีประสบการณ์ “ข้าศึกอยู่ไหน?” อากาศยานท่ยืนยันว่ายิงเคร่องบินข้าศึกตกทะเลทางด้าน
ี
หลายครั้งหลายหน ตั้งแต่ยุคเรือพาย เรือใบ ฯลฯ มาครั้ง เกาะหวาย แต่ไม่รู้ว่าเรือข้าศึกเข้ามาใกล้ตัวแล้ว
ั
�
ี
�
สาคัญในการรบทางเรือสมัยใหม่คร้งแรกของทหารเรือไทย ไทยมีกาลังทางอากาศอยู่ท่สนามบินเนินพลอยแหวน
ก็คือ การรบที่เกาะช้าง วันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วยฝูงบินขับไล่ แบบฮอว์ก ๓
ั
ี
ระหว่างการพิพาทกับอินโดจีนของฝร่งเศสท่หมวด จ�านวน ๘ เครื่อง และฝูงบินตรวจการณ์ แบบคอร์แซร์
�
ื
ิ
เรือไทย อันประกอบด้วยเรือปืนหนัก เรือตอร์ปิโดใหญ่ จานวน ๙ เคร่อง การติดต่อระหว่างหน่วยบนกับ
ี
ั
ั
ี
และเรือวางทุ่นระเบิดรบกับหน่วยเรือฝร่งเศสท่ม ี หน่วยเรือน้น “การติดต่อกับฐานทัพเรือท่สัตหีบไม่ได้
ิ
ิ
เรือลาดตระเวน และเรือสลุป เวลารุ่งอรุณของวันนั้น มีการติดต่อกัน และย่งกับกองเรือย่งไม่เคยได้ติดต่อ
�
ี
ั
โดยปกติเรือลาดตระเวนลามอตปิเกต์ มีเรือบิน กันเลย” ตอนเวลาเช้าของวันทาการรบน้น “ขณะท่ยังมืดอย ู่
ื
�
ั
ื
ประจาเรืออยู่ ๑ เคร่อง แต่เวลาน้นเคร่องมือในการส่ง เวลาประมาณ ๐๕๐๐ เศษ พวกเราก็ต้องตกใจต่น
ื
ื
เคร่องบินข้นบินเสีย ทางกองบัญชาการจึงมอบเรือบิน เพราะได้ยินเสียงปืนดังพรึม ๆ ต่อเน่องกันไม่ขาดระยะ
ึ
ื
็
ึ
แบบ Hydraimon จ�านวน ๒ ล�า (ฝรั่งเศสมีอยู่ ๘ ล�า) กได้แต่นึกในใจว่ากองเรือของเราซ่งจอดอยู่ในอ่าวเกาะช้าง
�
ี
อยู่ในบังคับบัญชาของหน่วยเรือ เรือบินมีฐานบินอยู่ท่เรียม ท่เห็นเม่อวานตอนเย็นน้น คงถูกเรือข้าศึกจู่โจมทาการ
ี
ั
ื
ั
เวลาบ่าย วันที่ ๑๖ มกราคม เรือบินได้บินไปดูลาดเลา ยิงแน่” (เม่อธนบุรีรบ; อ้างแล้ว) สถานการณ์ก่อนหน้าน้น
ื
ที่สัตหีบล�าหนึ่ง และอีกล�าหนึ่งไปลาดตระเวนที่เกาะกูด เคร่องบินตรวจการณ์ไทย ๑ ลา ได้บินลาดตระเวน
ื
�
ี
ี
�
เกาะช้าง และฝั่งทะเลสยามจนถึงพรมแดน ทาให้รู้จุดท่ต้ง ระหว่างเกาะช้าง เกาะกง เกาะกูด ตอนบ่ายวันท่ ๑๖
ั
ึ
ของกองเรือสยาม ดังนี้ ก่อนการรบวันรุ่งข้น “ประมาณเวลา ๑๖๓๐ ได้เห็นเรือรบ
เรือท่จอดอยู่สัตหีบ มีเรือปืนหุ้มเกราะ ๑ ลา ของเราไม่น้อยกว่า ๔ ล�า รวมกองอยู่ในอ่าว ทหารเรือ
ี
�
นาวิกศาสตร์ 49
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๔

