Page 53 - นาวิกศาสตร์ เดือน ธันวาคม ๒๕๕๔
P. 53
ที่ ๔ ดังกล่าวข้างต้นนี้เมื่อได้กลับมาเมืองไทยแล้ว
ต่างก็ได้ปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ความรับผิดชอบ
ตามความรู้ความสามารถ และโอกาสที่มีในช่วงเวลา
ซึ่งเมืองไทยเริ่ม “เปิดประเทศ รับอารยธรรมตะวันตก”
ซึ่งจะตามมาด้วยการพัฒนาเมืองไทยสู่ความทันสมัย
การที่ “นักเรียนนอก” รุ่น “บุกเบิก” ส่วนมาก
ได้รับการส่งไปศึกษาในประเทศอังกฤษ เนื่องจาก
สยามเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอังกฤษมากกว่า
ชาติอื่น และภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาตะวันตกที่
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีความรู้
แตกฉาน ขณะที่บุคคลชั้นสูงหลายท่านในขณะนั้น
ก็ค่อนข้างจะคุ้นเคยมากกว่าภาษาอื่น ๆ ส่วนที่
“นักเรียนนอก” ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในสกุลบุนนาค สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) เป็นผู้ส่ง “นายฉุน” ซึ่งอยู่
ในความอุปการะของท่านให้ออกไปฝึกวิชาเดินเรือกำปั่นที่ประเทศอังกฤษ
ก็เพราะในรัชกาลที่ ๔ บุคคลใน “คณะรัฐบาล” ซึ่ง จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรกลับมารับราชการซึ่งเป็น
บริหารประเทศล้วนเป็นบุคคลในสกุล “บุนนาค” อันได้แก่ คนแรกที่ไปศึกษายังต่างประเทศ
สมเด็จเจ้าพระยามหาประยูรวงศ์ (ดิศ) สมเด็จเจ้าพระยา ทั้งปวง ต่อมาอีกก็ได้เป็นพระยาในราชทินนาม
บรมมหาพิไชยญาติ (ทัต) สมเด็จเจ้าพระยาบรม เดียวกันตำแหน่งเจ้ากรมคลอง
มหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) และเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ) บทสรุป
เป็นต้น ขณะที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่รอง ๆ มาก็มัก จะเห็นได้ว่า แม้ว่าเราได้เตรียมการรองรับ
จะเป็นลูกหลานของท่านเหล่านี้ เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในโลกกว้างอย่างเต็มที่อยู่
ความจริงแล้ว นักเรียนนอกทั้ง ๘ คน ก็ยังไม่ใช่ แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่วายที่จะประสบเคราะห์กรรมจาก
นักเรียนนอกคนแรกของสยามประเทศโดยในสมัย ฝรั่ง ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ขณะนั้นและในอนาคตก็เช่น
รัชกาลที่ ๓ เมื่อเรือสินค้าของอังกฤษเริ่มเข้ามา เดียวกัน ภัยคุกคามด้านใช้กำลังอาจจะหมดไป
ค้าขายกับไทยภายหลังสนธิสัญญาเบอร์นี่ย์ แต่ภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา กำลัง
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) ได้ฝาก คืบคลานมา มีการครอบงำด้วยวัฒนธรรมอย่าง
เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในความอุปการะของท่าน กว้างขวาง ขอให้เราเตรียมรับภัยคุกคามเหล่านี้ไว้
ชื่อ “นายฉุน” กับ กัปตันเรืออังกฤษ ให้ออกไปฝึก ให้ดี อย่ามัวหลงระเริง กับความสุขและยาพิษที่ได้รับ
วิชาเดินเรือกำปั่นที่ประเทศอังกฤษ จนกระทั่งสำเร็จ จากพระกระแสตอนหนึ่งของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๓
การศึกษาได้รับประกาศนียบัตรกลับมารับราชการ ที่พระราชทานพระยาศรีสุริยวงศ์ ตามที่กล่าวไว้ว่า
ในรัชกาลที่ ๔ นายฉุนผู้นี้มีบรรดาศักดิ์เป็น “การงานสิ่งใดของเขาที่คิดควรจะเรียนเอาไว้ก็ให้เอา
ขุนจรเจนทะเล และได้ร่วมไปกับคณะทูตของพระยา อย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว” หรือ
มนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม) ในฐานะเป็นล่ามของท่าน สรุปได้ว่า “จงเอาเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่าง”
ราชทูต ต่อมาในรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๓ ซึ่ง เอกสารอ้างอิง
ขณะนั้นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) - http://www.bunnag.in.th/prarajpannuang009.html , ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔
เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ขุนจรเจนทะเล - http://61.47.61.37/board/view.php?id=1814373, ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔
- นักเรียนนอก ข้อมูลสำคัญในประวัติศาสตร์สังคมไทย ,ดร.วิชิตวงศ์
(ฉุน) ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็น พระชลธารวินิจฉัย ณ ป้อมเพชร ; ๒๕๓๗
ตำแหน่งพนักงานตรวจตรารักษาคลองใหญ่น้อย - สกุลบุนนาค ,ชมรมสายสกุลบุนนาค ; พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๒
๐52 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔

