Page 13 - ประวัติ พระอนุสาวรีย์ พระตำหนัก ศาลพระรูป ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร เกียรติวงค์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์
P. 13
ก – ๑๑
ิ
เสด็จในกรมฯ ทรงได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงพเศษออกไปจัดสรรหา
ื้
ซื้อเรือในภาคพนยุโรป พระองค์ได้เสด็จเสาะแสวงหาอยู่หลายประเทศ จึงได้ทราบพบเรือพฆาตตอร์ปิโดของ
ิ
บริษัท ทอร์นิครอฟท์ แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า “เรเดียนท์” ทรงพิจารณาเห็นว่าเป็นที่เหมาะแก ่
ความต้องการของกองทัพเรือ และเป็นเรือที่เพงต่อขึ้นใหม่ จึงได้ทรงชี้แจงมายังกรรมการราชนาวีสมาคม
ิ่
ซึ่งคณะกรรมการของสมาคมก็มีความเห็นชอบด้วย
เสด็จในกรมฯ ทรงเป็นผู้บังคับการเรือหลวงพระร่วงเอง พร้อมด้วยนายทหารเรือไทยและ
ื่
จ้างเจ้าหน้าที่อน ๆ ซึ่งเป็นทหารเรือองกฤษ น าเรือจากประเทศองกฤษเข้ามาถึงกรุงเทพฯ ปรากฏพระเกียรติยศ
ั
ั
ี
เป็นครั้งแรกที่นายทหารเรือไทย สามารถเดินเรือทะเลได้ไกลถึงเพยงนี้ จึงถือเป็นเกียรติประวัติของราชนาวีไทย
และเป็นการปรากฏพระเกียรติคุณแห่งเสด็จในกรมฯ เรือหลวงพระร่วงได้เดินทางเข้ามาถึงประเทศไทย
เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๓ การต้อนรับและการสมโภชเรือหลวงพระร่วง ได้เป็นไปอย่างมโหฬารและ
ิ
เอกเกริกอย่างยิ่ง ในพระราชด ารัสของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการพระราชทานเลี้ยง
เนื่องในการฉลองเรือหลวงพระร่วง ณ ศาลาสหทัยสมาคม เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๓ ได้ทรงกล่าวถึง
พระเกียรติคุณของเสด็จในกรมฯ ในการน าเรือหลวงพระร่วงมาสู่ประเทศไทยว่า “ส่วนกรมชุมพร ข้าพเจ้าได้
กล่าวแล้วว่าเป็นนายทหารเรือไทยคนแรก ที่น าเรือรบไทยมาจากต่างประเทศได้ตลอด และที่ยากมากปานใด
ในการน ามานั้น ท่านทั้งหลายคงจะพอเดาเอาได้ เมื่อทราบว่าบรรดาลูกเรือนั้น เป็นชาวต่างประเทศทั้งนั้น
และที่น ามาได้โดยสวัสดิภาพ ก็แสดงให้เห็นได้ว่าเป็นผู้ช านาญทะเลจริง นับว่าสมควรที่จะได้รับความชอบใจ
ของข้าพเจ้าและท่านทั้งหลาย”
เสด็จในกรมฯ ทรงปฏิบัติราชการสืบมา ได้รับพระราชทานเลื่อนยศจาก นายพลเรือโทขึ้นเป็น
นายพลเรือเอก เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอสริยศักดิ์
ิ
เลื่อนจาก“กรมหมื่น” ขึ้นเป็น “กรมหลวง” เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๓
ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๖ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เสด็จในกรมฯ ทรงด ารง
ต าแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ
ี
เสด็จในกรมฯ ทรงด ารงต าแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือเพยงไม่กี่วันเท่านั้น ได้กราบบังคมลา
ื่
ราชการออกไปตากอากาศเพอพกผ่อนรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ ๑ ๗ เมษายน พ.ศ.๒ ๔ ๖ ๖ ทั้งนี้
ั
เพราะเสด็จในกรมฯ ทรงมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ และประชวรพระโรคภายในอยู่ด้วย ทางกระทรวงทหารเรือ
ได้สั่งให้กระบวนเรือที่ ๒ จัดเรือหลวงเจนทะเล ถวายเป็นพาหนะ และกรมแพทย์ทหารเรือ ได้จัดนายแพทย์
ประจ าพระองค์ ๑ นาย พร้อมด้วยพยาบาลตามเสด็จไปด้วย เสด็จในกรมฯ ได้เสด็จออกจากกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๖ ได้เสด็จไปประทับอยู่ที่ด้านใต้ปากน้ า เมืองชุมพร ซึ่งเป็นที่ทรงจองไว้จะท าสวน
ขณะที่ประทับอยู่ที่จังหวัดชุมพรนี้ ก็เกิดเป็นพระโรคหวัดใหญ่เนื่องจากถูกฝน ทรงประชวรอยู่เพยง ๓ วัน
ี
ก็สิ้นพระชนม์ ที่ต าบลหาดทรายรี ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๖ สิริพระชนมายุได้ ๔๔ พรรษา
ในวันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๖ เรือหลวงเจนทะเล ได้เชิญพระศพจากจังหวัดชุมพรมายัง
กรุงเทพฯ และมาพักถ่ายพระศพลงสู่เรือหลวงพระร่วง ที่บางนา ต่อจากนั้น เรือหลวงพระร่วงได้น าพระศพเข้า
มายังกรุงเทพฯ และน ามาประดิษฐานไว้ที่วังของพระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
็
ทรงบ าเพญพระราชกุศลพระราชทาน จนถึงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๖ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้อัญเชิญพระศพไปพระราชทานเพลิง ณ พระเมรุท้องสนามหลวง

