Page 9 - ประวัติ พระอนุสาวรีย์ พระตำหนัก ศาลพระรูป ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร เกียรติวงค์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์
P. 9
ก – ๗
การออกฝึกนี้ นอกจากจะท าให้นักเรียนนายเรือได้รู้จักปฏิบัติการจริง ๆ ทางทะเลแล้ว ยังทรงน า
ี
สิ่งใหม่ ๆ มาสู่วงการทหารเรืออก คือ แต่เดิมเรือรบของไทยทาสีขาว พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนสีเรือ
ั
มกุฎราชกุมาร ล าที่ ๑ ให้เป็นสีหมอกตามแบบอย่างเรือองกฤษ และต่อมาเรือรบทุกล าของไทยก็ทาสีหมอกมา
จนทุกวันนี้
เสด็จในกรมฯ ทรงปลูกฝังความรักชาติให้กับนักเรียนนายเรือ
เนื่องจากประเทศไทยถูกรุกรานทางทะเลจากประเทศฝรั่งเศส กรณีเหตุการณ์การรบที่ปากแม่น้ า
เจ้าพระยา ร.ศ.๑๑๒ ท าให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดนไปบางส่วน พร้อมกับเสียเงินค่าท าขวัญ พร้อมทั้ง
จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ถูกยึดเป็นประกัน เสด็จในกรมฯ ทรงเจ็บแค้นพระทัยเป็นอย่างมาก จึงทรงให้
นักเรียนนายเรือสักค าว่า “ร.ศ.๑๑๒ ตราด” ไว้ที่หน้าอกทุกคนรวมทั้งพระองค์ท่านด้วย เพอเป็นเครื่องจดจ า
ื่
และหาหนทางที่จะแก้แค้นต่อไป
ต่อจากการสักแล้ว เสด็จในกรมฯ ทรงแต่งเพลงฮะเบสสมอ และอน ๆ ซึ่งมีอยู่หลายบทด้วยกัน
ื่
เพื่อให้นักเรียนนายเรือร้องปลุกใจให้กล้าหาญและรักชาติให้สมกับเป็นทหารเรือไทย
นอกจากนั้นเสด็จในกรมฯ โปรดให้สร้างเรือน้ าตาลขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๙ ซึ่งเป็นเรือจ าลองมีค าว่า
“ธนบุรี ร.ศ.๑๑๒” ที่หัวเรือ ตั้งไว้บนบก เพอให้นักเรียนนายเรือชั้น ๔ ชั้น ๕ ฝึกแก้อตราผิดของเข็มทิศ
ื่
ั
ื่
เพอเวลาน าเรือออกท้องทะเลลึกได้โดยเข็มไม่ผิด และให้ได้เห็นทุกวัน เป็นการเตือนใจให้หาทางแก้เผ็ด
ี
และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ เช่น ร.ศ.๑๑๒ เกิดขึ้นอก และที่ทรงใช้ชื่อว่า “น้ าตาล” เพราะน้ าตาลแก้รสเผ็ดได้
หรืออีกนัยหนึ่งเป็นเรือที่ลอยน้ าไม่ได้ (เช่นเดียวกับน้ าตาล)
เสด็จในกรมฯ ทรงตั้งกองดับเพลิง
นอกจากทรงใฝ่พระทัยในด้านการศึกษาของนักเรียนนายเรือแล้ว เสด็จในกรมฯ ทรงด าริว่า ส าหรับ
การช่วยเหลือราษฎรในด้านการดับเพลิงนั้น ควรจะให้นักเรียนนายเรือได้มีการฝึกการช่วยเหลือราษฎร
ท าการดับเพลิง เพราะมีเรือสูบน้ าและเรือกลไฟเล็ก ซึ่งขึ้นอยู่กับกรมเรือกลอยู่แล้ว และมีหน้าที่ดับเพลิง
ดังนั้นเมื่อเกิดเพลิงไหม้ที่ใด เรือกลไฟจะท าหน้าที่ลากจูงเรือสูบน้ าไปท าการดับเพลิงเป็นประจ า เสด็จในกรมฯ
จึงทรงตั้งกองดับเพลิงของทหารเรือขึ้น โดยมีกองต่าง ๆ ดังนี้
๑. กองถัง
๒. กองขวาน
๓. กองผ้าใบกันแสงเพลิง
๔. กองรื้อและตัดเชื้อเพลิง
๕. กองช่วย
๖. กองพยาบาล
ี
ต่อมาจึงได้เพิ่มกองสายสูบขึ้นอกกองหนึ่ง ในการนี้ได้ทรงจัดให้นักเรียนนายช่างกลท าหน้าที่ร่วมกับ
ื่
ื่
นักเรียนอน ๆ และเพอความช านาญให้มีการเปลี่ยนกันไปบ้างตามความสามารถของนักเรียน นอกจากนั้น
เสด็จในกรมฯ ทรงฝึกหัดการดับเพลิงให้กับทหารและนักเรียนนายเรือด้วยพระองค์เอง ในสมัยนั้นมักจะเกิด
เพลิงไหม้บ่อย ๆ เสด็จในกรมฯ จะเสด็จไปบัญชาการดับเพลิงด้วยพระองค์เองเสมอ ๆ โดยไม่ทรงถือพระองค์
และจะลงมือปฏิบัติด้วยพระองค์เอง เพอเป็นแบบอย่างแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยความกล้าหาญ ดังเช่นใน
ื่
ต้นเดือน ธันวาคม ร.ศ.๑๑๙ (พ.ศ.๒๔๔๓) เกิดเพลิงไหม้ที่ต าบลบ่อนหัวเม็ด ทางด้านวัดบพิตรพมุข เสด็จในกรมฯ
ิ

