Page 8 - ประวัติ พระอนุสาวรีย์ พระตำหนัก ศาลพระรูป ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร เกียรติวงค์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์
P. 8
ก – ๖
ั
โกลาหลชั่วขณะหนึ่ง แต่ด้วยพระสติปัญญาอนสุขุมของพระองค์ และทรงพจารณาสั่งการต่าง ๆ ตลอดจน
ิ
่
อธิบายให้นักเรียนและทหารในเรือมิให้ตื่นเต้นหรือหวาดกลัวจนเกินไปจนท าอะไรไมถูก จึงทรงหาทางปลอดภัย
ให้แก่เรือได้ เรือหลวงมกุฎราชกุมาร ล าที่ ๑ จึงได้แล่นไปโดยสวัสดิภาพจนเข้าช่องลิงกา (LINGA STRAIT)
เพื่อทอดสมอ และท าพิธีข้ามเส้นอิเควเตอร์
ขณะที่เรือหลวงมกุฎราชกุมาร ล าที่ ๑ ทอดสมอที่สิงคโปร์ นักเรียนนายเรือได้รับเชิญให้ไปดูการ
ซ้อมรบของทหารองกฤษ ซึ่งมีทหารประมาณหนึ่งร้อยคน แต่งกายพรางตาเพอให้ข้าศึกเห็นเป็นป่าหญ้าคา
ั
ื่
โดยเอาหญ้าคาเสียบไว้บนหมวกบ้างบนบ่าบ้าง ฝ่ายทหารองกฤษจะเป็นฝ่ายเข้าตีอกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นแขกซิก
ี
ั
มีจ านวนประมาณ ๒ กองร้อย นักเรียนนายเรือต่างได้รับค าสั่งให้แยกย้ายกันดูไว้เป็นตัวอย่าง
เมื่อเรือหลวงมกุฎราชกุมาร ล าที่ ๑ กลับมาถึงชุมพรและจอดทอดสมอ เจ้าเมืองชุมพรพร้อมด้วย
ข้าราชการและราษฎรพากันมาเฝ้าเสด็จในกรมฯ ได้รับสั่งให้ท าการฝึกยกพลขึ้นบก โดยให้แบ่งนักเรียนนายเรือ
ออกท าการประลองยุทธ์ ทรงสั่งให้ควบคุมการฝึกอย่างเข้มแข็ง นักเรียนได้ท าการฝึกซ้อมการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ
อย่างว่องไวและเข้มแข็ง เป็นที่พอพระทัยของเสด็จในกรมฯ เป็นอย่างมาก บรรดาข้าราชการและประชาชน
ที่ได้เห็นต่างพากันชื่นชมยินดีและสรรเสริญเสด็จในกรมฯ ว่าทรงพระปรีชาอย่างยิ่งในการฝึกฝนอบรมนักเรียน
นายเรือ เพื่อให้เป็นนายทหารที่เข้มแข็งในอนาคต
ี
ส าหรับการประลองยุทธ์ทางบกนี้ ยังได้ทรงให้มีการประลองยุทธ์อก ที่บางพระ วิธีการของพระองค์
คือ ทรงแบ่งทหารออกเป็น ๒ กอง ก่อนออกฝึก ๗ วัน ทรงบัญชาการฝึกความอดทนของทหาร โดยให้ใส่
เครื่องสนามครบ เอาทรายใส่หลังแทนข้าวสาร วันแรกใส่ข้าวสาร ๑ ทะนาน วันต่อ ๆ ไปเพมขึ้นวันละทะนาน
ิ่
จนถึง ๗ ทะนาน และให้ฝึกทั้งเช้าและเย็น ทั้งนี้เพอให้ก าลังทหารอยู่ตัว ในระหว่างการฝึกยังได้ทรงสอนวิธี
ื่
หุงข้าวและหาอาหารในป่าด้วย กองทหารที่แบ่งออกเป็น ๒ กอง นั้น จะแยกกันตั้งค่ายตามจุดของตน
โดยจะสร้างเป็นหอคอยมีก าแพงล้อมรอบท าด้วยไม้ไผ่ และมีกองรักษาการณ์ตลอดเวลา เมื่อเริ่มออกท าการ
ประลองยุทธ์ต่างฝ่ายก็จะเดินทางไปยังจุดที่หมาย พบกัน ณ ที่ใดก็เริ่มยิงต่อสู้กัน โดยใช้กระสุนซ้อมยิง
จนกระทั้งถึงเวลาพกรบก็เลิกรากัน ต่างฝ่ายต่างกลับไปยังค่ายของตนเพอพกผ่อน เสด็จในกรมฯ รับสั่งให้
ั
ั
ื่
ท าลายป้อมค่ายเสีย แล้วยกไปตั้งที่จุดใหม่ แล้วท าการรบอีกดังนี้ถึง ๓ ครั้ง
ี
นอกจากการประลองยุทธ์ทางบกแล้ว ยังได้ทรงจัดให้มีการประลองยุทธ์ทางทะเลอกด้วย
ทั้งนี้ก็เนื่องจากทรงมีพระประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ได้มีการฝึกหัดให้มีความช านาญและมีพระประสงค์
จะเห็นความสามารถของเจ้าหน้าที่ด้วย ทรงให้ฝึกหัดหลายอย่าง เช่น ฝึกหัดเตรียมรบ หัดทิ้งลูกดิ่ง หัดตีกรรเชียง
หัดสละเรือใหญ่ เป็นต้น
นับว่าได้ทรงฝึกหัดทหารเรือและนักเรียนนายเรือ ให้มีความช านาญในการรบและปฏิบัติการด้วย
ความเข้มแข็ง และอดทนอย่างแท้จริง โดยที่พระองค์ได้ทรงบัญชาการฝึกด้วยพระองค์เองอย่างใกล้ชิด
เป็นต้นว่าช่วยลากเชือกวิ่งในเวลาชักเรือโบต และขนถ่ายของจากเรือใหญ่ แม้แต่วิธีปฏิบัติในเรือเกี่ยวกับ
การอาบน้ า หรืออาหารก็ทรงปฏิบัติเช่นเดียวกับทหารอน ๆ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทหารทั้งหลายย่อมเห็นใน
ื่
พระอตสาหะและความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อบรรดาทหารทั้งหลาย ทหารเหล่านั้นจึงรักและเคารพ
ุ
ในพระองค์ท่านอย่างยิ่งประดุจว่า พระองค์ทรงเป็นองค์บิดาแห่งทหารเรือทั้งหลาย

