Page 40 - นาวิกศาสตร์ เดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔
P. 40

ยุทโธปกรณ์                                    ให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้รวดเร็ว
                -  สร้างเรือรบในแม่น้ำจำนวนมาก  และฝึกให้ทหาร      เรื่องอาหารการกินนั้นไม่ต้องเป็นห่วง  นา  สวน  มีให้ทำ
            ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว  ทั้งแจว  ทั้งพาย  จนสามารถ   มากมาย  ขอให้มีคนทำ  ดังนั้นในขณะที่บางปีพม่าหงสาวดี
            จัดเป็นกองเรือเร็ว  และเรือปืนได้  เป็นจุดแข็งประการหนึ่ง   ขาดแคลนข้าว  แต่อยุธยามีเหลือเฟือ
            ของกองทัพไทย
                -  เรือรบในทะเล  หลังประกาศเอกราชแล้ว  มีการสร้าง   สร้างระเบียบวินัย  หรือสร้างเหล็กในคน
            เรือรบในทะเลด้วย  เอกสารจีนบันทึกไว้ว่า  เมื่อปี  พ.ศ.๒๑๓๕       ไม่น่าเชื่อว่าปัญหาสำคัญของอยุธยา  คือ  หาคนมารบ
            ทูตไทยที่ส่งไปเจริญสัมพันธไมตรีเมืองจีน   ถวายรายงาน   ได้ไม่พอตามที่ต้องการ   ต้องเก็บข้าใส่เมือง  ไม่ว่าจะเป็น
            ฮ่องเต้จีน  (จักรพรรดิเสินจง)  ว่าสมเด็จพระนเรศวร      ชนเผ่าใด  สมเด็จพระนเรศวรท่านเอามาหมด  เมื่อได้
            อาสายกทัพเรือกรุงศรีอยุธยา  ไปตีญี่ปุ่นช่วยจีนแต่ฮ่องเต้จีน   ชนต่างเผ่าพันธุ์  ต่างวัฒนธรรม  ความเจริญต่างกัน  มาอยู่
            ตอบปฏิเสธ  ตามคำแนะนำของกุนซือ                รวมกัน  พระองค์จึงต้องใช้กฎระเบียบ  วินัย  เป็นเครื่อง
                -  เรือสินค้าทางทะเล  ไปค้าขายถึงเมืองจีน  เพื่อสร้าง   หล่อหลอมให้ทุกคนมีมาตรฐานเดียวกัน  นักประวัติศาสตร์
            ความมั่งคั่ง                                  ต่าง ๆ  จึงกล่าวว่า  สมเด็จพระนเรศวร  ท่านดุ  และเข้มงวด
                                                          กวดขันเรื่องระเบียบวินัยมาก  จนพม่าเองกล่าวว่า  ทหาร
            ปัจจัยทางเศรษฐกิจ                             อยุธยากลัวสมเด็จพระนเรศวรมากกว่ากลัวตาย  รบกับคน
                การทำสงครามต้องมีเศรษฐกิจหนุนหลังอย่างใกล้ชิด       ไม่กลัวตายที่มีฝีมือรบนั้น   เอาชนะยากจริง ๆ  ไม่ว่าจะเป็น
            ประเทศยากจน  ไม่มีกองทัพที่เข้มแข็ง  กรุงศรีอยุธยา   กองทัพสมัยใด  สงครามยุคไหน
            ในสมัย  พ.ศ.๒๑๑๒  หลังเสียกรุง  ยากจนมาก ๆ  ทรัพย์สมบัติ
            ของทั้งของรัฐและของราษฎร์  พม่าขนเอาไปหมด  แถมขนคน   การปฏิบัติตามแผนที่รวมพล  เตรียมกองทัพ
            ซึ่งเป็นปัจจัยผลิตที่สำคัญเอาไปด้วย  ปัญหาเฉพาะหน้า      ที่ซ่องสุมกำลังมิให้พม่ารู้เห็น  ไหวตัวทำลาย
            ของผู้บริหารรัฐ  คือ  จะเอาทรัพย์สินเงินทองจากไหน   ขุมกำลังนี้เสียก่อน  พื้นที่กรุงศรีอยุธยาและหัวเมืองรอบ ๆ
            มาซื้อหาอาวุธยุทธโธปกรณ์  ปืนเล็ก  (ปืนไฟ)  ปืนใหญ่   พระนคร  ย่อมไม่คลาดสายตาทหารพม่า  ๓,๐๐๐  คนไปได้
            ดินปืน  ซื้อเหล็กมาตีเป็นดาบ  หอก  ฯลฯ  ตามมาดูซิว่า   จึงต้องมองไปที่ถิ่นเดิมของราชวงศ์สุโขทัย  นั่นคือ
            บรรพบุรุษของเราท่านแก้ปัญหาอย่างไร            เมืองพิษณุโลก  และหัวเมืองเหนือแคว้นสุโขทัยเดิม
                จีนบันทึกว่า  กรุงศรีอยุธยาได้ส่งคณะทูตนำเครื่อง   ซึ่งห่างจากอยุธยา  ห่างไกลหูตาพม่า  ประชาชนก็เป็น
            บรรณาการไปถวายฮ่องเต้จีน  ในปี พ.ศ.๒๑๓๕ นั่นคือ      พวกเดียวกัน  ไว้วางใจได้  ฐานทัพกู้ชาติจึงเริ่มต้นที่เมือง
            อยุธยาได้ส่งกองเรือสินค้าไปค้าขายกับจีน  การค้าขาย   พิษณุโลก
            กับจีนจะต้องมีคณะทูตนำเครื่องบรรณาการไปถวายฮ่องเต้
            ตามประเพณี   แล้วจะซื้อขายอะไรก็ว่ากันไป   ถ้าการทูตดี   พื้นที่รวมพล
            ก็เสียภาษีน้อย   หรือไม่ต้องเสียภาษีเลย  จีนมีเหล็ก  ทองแดง         อยุธยาและหัวเมืองโดยรอบมีประชาชนเบาบาง
            แต่จะซื้อ  (นำออก)  ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ  บางครั้ง   ประชาชนส่วนใหญ่ถูกกวาดต้อนไปพม่า  จะได้จากกลุ่ม
            ก็ได้  บางครั้งก็ไม่ได้  บางยุคบางสมัย  ไทยต้องซื้อ   ที่หลบหนีภัยเขมรกลับมาบ้างก็มีไม่เท่าใด  พม่ามิให้
            กะทะเหล็ก  เอามาตีเป็นอาวุธก็มี  ส่วนสินค้าที่จะทำรายได้   อยุธยาตั้งกองทัพ  การจะเรียกเกณฑ์มาฝึกเพลงอาวุธ
            ให้อยุธยา  ส่วนใหญ่เป็นของป่า  พูดได้ว่า  เป็นการเอาสินค้า   ทำได้ยาก  นักรบฝีมือดีก็ถูกจับเป็นเชลยไปพม่าแทบหมด
            ไปแลกสินค้า  แม้แต่การค้าขายกับชาติตะวันตก  เปอร์เซีย      ส่วนหัวเมืองทางเหนือสภาพบ้านเมืองและประชาชน
            ยุโรป  ก็ทำนองเดียวกัน  เอาสินค้าไทย  แลกปืนไฟ   ปืนใหญ   ่  ส่วนใหญ่ยังบริบูรณ์ดี  ไม่ถูกกวาดต้อนไปพม่า  ประชากร
            อาศัยที่กรุงศรีอยุธยาอยู่ใกล้ปากอ่าว  มีสินค้าพื้นเมือง   หนาแน่นกว่าอยุธยาและหัวเมืองทางชายทะเล  แผนการ
            ที่ทางจีน  เปอร์เซีย  และยุโรปต้องการเป็นจำนวนมาก   เตรียมกองทัพ (คน) ของไทยจึงมุ่งไปหาคนในหัวเมืองเหนือ
            ทั้งชนิดและปริมาณ  ดังนั้นแม้จะแพ้ศึก  ถูกปล้นเมือง       ลูกหลานพ่อขุนรามคำแหงมหาราชกลับไปเมืองประสูติ
            แต่สมเด็จพระมหาธรรมราชา  ก็สามารถทำการค้าขาย   ของพระองค์




                                                             นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม ๒๕๕๔ ๐37
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45