Page 77 - นาวิกศาสตร์ เดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔
P. 77
คอลัมน์ประจำ
อาวุธศึกษา
นาวาเอก ศูนย์ปืน โสมภีร์
ปืนไรเฟิลเอ็ม ๑๔ ระยะยิงหวังผลของปืนรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ ๕๐๐ หลา
ปืนไรเฟิล เอ็ม ๑๔ แม้ว่าปัจจุบันจะดูล้าสมัย แต่ใน แต่ถ้าติดกล้องเล็งก็สามารถยิงได้ดีในระยะไกลถึง
กองทัพก็ยังคงมีประจำการอยู่จำนวนหนึ่ง เนื่องด้วย ๘๐๐ หลาทีเดียว ซึ่งเป็นระยะยิงหวังผลที่ไกล
คุณสมบัติชั้นยอดของมันจึงยังคงเป็นปืนไรเฟิล ที่ใช้ใน กว่าปืนไรเฟิลเอ็ม ๑๖ ที่มีระยะยิงหวังผลอยู่ที่
การฝึกของพลแม่นปืนก่อนที่จะขยับชั้นไปจับปืนไรเฟิล ๓๐๐ - ๔๐๐ หลา เนื่องจากปืนรุ่นนี้มีทั้งความ
ระดับไฮเอ็น ปืนไรเฟิลรุ่นนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางของลำกล้อง แม่นยำสูงและยิงหวังผลระยะไกลได้ดี จึงเป็นปืนที่
ขนาด ๗.๖๒ มิลลิเมตร หรือคิดเป็นแคลิเบอร์ คือขนาด ได้รับความนิยมนำมาใช้เป็นปืนสไนเปอร์ในกองทัพ
.๓๐๘ นิ้วนั่นเอง กองทัพสหรัฐ ฯ ใช้ปืนแบบนี้ระหว่างปี ในยุคสงครามเวียดนามอย่างมาก ปัจจุบันปืนไรเฟิล
ค.ศ.๑๙๕๙ จนถึง ปี ค.ศ.๑๙๗๐ หลังจากนั้นมา เอ็ม ๑๔ ยังมีใช้การในสงครามในอัฟกานิสถานอยู่จำนวนหนึ่ง
กองทัพสหรัฐ ฯ จึงนำเอาปืนเอ็ม ๑๖ เข้า ประจำการแทน โดยนำปืนรุ่นนี้มาดัดแปลงติดกล้องเข้าไปก็ทำให้มัน
ปัจจุบันสหรัฐ ฯ ใช้เป็นปืนสำหรับประกอบพิธีการต่าง ๆ สามารถเป็นปืนซุ่มยิงชั้นยอดในสงครามต่อต้าน
และต่อมากองทัพสหรัฐ ฯ ได้พัฒนาปืนไรเฟิลรุ่นนี้ให้ การก่อการร้ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากใครแวะไปสังเกุการ
มีความแม่นยำเพิ่มขึ้นเป็นรุ่น เอ็ม ๒๑ และ เอ็ม ๒๕ ฝึกยิงปืนของนักกีฬาของกองทัพเรือในการแข่งขันยิงปืนไรเฟิล
ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้เป็นปืนสำหรับที่มีความ ที่สนามฝึกยิงหนองกระจงของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ
แม่นยำสูง เพื่อใช้ในภารกิจพลซุ่มยิงหรือที่เรียกว่า แล้วก็จะเห็นว่าปืนรุ่นนี้อยู่ในมือของนักแม่นปืนหลายกระบอก
สไนเปอร์ (Sniper) โดยเฉพาะครับ หากใครสนใจปืนรุ่นนี้ ปืนไรเฟิลเอ็ม ๑๔ เป็นปืนที่พัฒนาต่อยอด
สามารถเข้าไปดูที่พิพิธภัณฑ์ปืนเล็กตั้งอยู่บนชั้นสามของ มาจากปืน เอ็ม ๑ กาแลนด์ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ
กรมสรรพาวุธทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ก็จะ ของไทยคือ ปลยบ ๘๘ ซึ่งเป็นปืนแบบกึ่งอัตโนมัติ
เห็นมันวางอย่างงามสง่าน่าจับต้องเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถป้อนกระสุนเข้ารังเพลิงได้เองแต่ใช้กระสุนปืน
ขนาด .๓๐ - .๐๖ นิ้ว โดยพัฒนาต่อยอดให้เป็นปืนรุ่นนี้
ที่สามารถทำการยิงได้แบบอัตโนมัติร้อยเปอร์เซนต์หรือ
๐74 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

