Page 97 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ม.ปลาย
P. 97
87
ี
สมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มมีการติดตอกับชาติตะวันตกมากขึ้น มการสรางอาคารรูปแบบ
ุ
ิ
ู
ิ
ี่
ตาง ๆ เพื่อรองรับกจกรรมทางธรกจนอกเหนือจากทอยอาศัย และวัดวาอารามในอดีต ไดแก
ั
โรงงาน โรงสี โรงเลื่อย หางรานและทพักอาศัยของชาวตะวนตก นอกจากนี้การสรางอาคารของ
ี่
ทางราชการ กระทรวงตาง ๆ และพระราชวังที่มีรูปแบบตะวันตกผสมผสานกบสถาปตยกรรมไทย
ั
ในรูปแบบนีโอคลาสสิค เชน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งอนันตสมาคม เปนตน
ภาพ : พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งมีการสรางในรูปทรงแบบยโรป
ุ
ที่มา : https://mgronline.com/travel/detail/9590000026961
สําหรับที่พักอาศัย ในการประยุกตยุคแรก ๆ เรือนไมจะนําศิลปะตะวันตกมาประยุกต
ั
ุ
เชน เรือนปนหยา ซึ่งดัดแปลงมาจากเรือนไมของยโรป สรางขึ้นในพระราชวงกอนแพรหลาย
สูบานเรือนประชาชน หลังคาเรือนปนหยาทมุงดวยกระเบื้องทุกดานของหลังคาจะชนกันแบบปรา
ี่
ั
มิด ไมมีหนาจั่วแบบสถาปตยกรรมดั้งเดิม จากนั้นไดววฒนาการเปนเรือนมะนิลา ในบางสวนอาจ
ิ
เปนหลังคาปนหยา แตเปดบางสวนใหมีหนาจั่ว หลังจากนั้นก็มีเรือนขนมปงขิง ซึ่งไดรับอิทธิพลจาก
เรือนขนมปงขิงสมยโบราณของตะวันตก ซึ่งมการตกแตงอยางหรูหรา มครีบระบายอยางแพรวพราว
ี
ี
ั
โดยทั้งเรือนขนมปงขิงและเรือนมะนิลา เปนศิลปะฉลุลายที่เฟองฟูมากในสมัยรัชกาลที่ 5 - รัชกาลที่ 6
ิ
ี่
ี
ิ์
ี
ในสมัยรัชกาลที่ 5 เริ่มมการใหกรรมสิทธทดิน อกทงเกดยานตลาดเปนศูนยกลาง
ั้
ื
ี่
ั
ํ
ชุมชน ทาใหเกิดทพักอาศัยและรานคาตามยานหวเมอง เรียกสถาปตยกรรมเชนนี้วา เรือนโรง
มีลักษณะเปนเรือนพื้นติดดิน ไมตั้งอยูบนเสาสูง เชน เรือนไทยในอดีต ตั้งอยูยานชุมชนการคาชาวจีน
ที่เขามาทําการคาขาย โดยเปดหนารานสําหรับขายของ สวนดานหลังไวพักอาศัย สรางเรียงรายกัน

