Page 47 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ประถม
P. 47

38





                                2.2 พ่อขุนรามค าแหงมหาราช

                                                                                              ิ
                                พ่อขุนรามค าแหงมหาราช เป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทตย์ พระนาม
                  เดิมว่า ขุนรามราช เมื่อมีพระชนมายุได้ 19 ปี ได้ช่วยพระราชบิดาออกสู้รบในการสงคราม


                  กับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด จนรบชนะ จึงได้พระนามว่า “พระรามค าแหง” เสด็จขึ้น
                                             ี่
                  ครองราชสมบัติเป็นรัชกาลท 3 แห่งราชวงศ์พระร่วง ในปี พ.ศ. 1822 ในรัชสมัยของพระองค์
                                                                                                   ี่
                  บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองแผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง จนประชาชนได้รับความสุขทเรียกว่า
                  “ไพร่ฟ้าหน้าใส”

                                ในสมัยพ่อขุนรามค าแหงมหาราช มีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก (ราชาธิปไตย)

                  พระองค์ใช้พระราชอ านาจด้วยความเป็นธรรม และให้เสรีภาพแก่ประชาชน แต่ก็ทรงสอดส่อง

                                               ุ
                  ความเป็นอยู่ของราษฎร ใครทกข์ร้อนก็สามารถร้องทกข์ได้ โดยได้โปรดให้แขวนกระดิ่งไว้ท        ี่
                                                                     ุ
                                                             ี่
                  ประตูพระราชวัง ดังหลักศิลาจารึก หลักที่ 1 ทว่า “…ในปากประตูมีกระดิ่งแขวนไว้หั้น  ไพร่ฟ้า
                  หน้าปก กลางบ้านกลางเมือง มีถ้อยมีความ เจ็บท้องข้องใจ มักจักกล่าวเถิงเจ้าเถิงขุนบ่ไร้ ไปลั่น

                             ่
                  กระดิ่งอันทานแขวนไว้ พ่อขุนรามค าแหงเจ้าเมืองได้ยินเรียกเมื่อถาม สวนความแก่มันด้วยซื่อ
                  ไพร่ในเมืองสุโขทัยนี้จึงชม”



                                พระราชกรณียกิจด้านการเมืองการปกครอง

                                1. ทรงท าสงครามขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง

                                ทิศเหนือ       อาณาเขตถึงเมืองหลวงพระบาง เมืองแพร่ เมืองน่าน เมืองปัว

                                ทิศใต้         อาณาเขตถึงฝั่งทะเลสุดเขตมลายู โดยมีเมืองต่าง ๆ คือ

                                                        ี
                                               เมืองคณฑ เมืองพระบาง เมืองแพรก เมืองสุพรรณบุรี (อู่ทอง)
                                               เมืองราชบุรี เมืองเพชรบุรี และเมืองนครศรีธรรมราช
                                ทิศตะวันออก  อาณาเขตถึงเมืองเวียงจันทน์ และเมืองเวียงค า


                                ทิศตะวันตก  อาณาเขตถึงเมืองฉอด และเมืองหงสาวดี
                                                                                    ่
                                                          ่
                                2. ทรงโปรดให้สร้างพระแทนศิลาขึ้น เรียกว่า “พระแทนมนังศิลาบาตร” ตั้งไว้
                  กลางดงตาล เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์แสดงธรรมในวันธรรมสวนะ และทรงใช้ประทบว่าราชการ
                                                                                              ั
                  และอบรมสั่งสอนประชาราษฎร์ในวันธรรมดา

                                พระแทนทถูกทงร้างอยู่หลายร้อยปี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า
                                                ิ้
                                           ี่
                                        ่
                  เจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 17 มกราคม ปี พ.ศ. 2376 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎทรงผนวช
                                                                                     ่
                  ได้เสด็จธุดงค์ไปนมัสการเจดีย์สถานต่าง ๆ แล้วตรัสสั่งให้ชะลอพระแทนมนังศิลาบาตรไปก่อ
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52