Page 49 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ประถม
P. 49
40
8. ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศในด้านการเมือง ศาสนา และการค้า
ดังนี้
ลังกา มีความสัมพันธ์ในเรื่องศาสนา โดยรับเอาพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท
ู
ู
แบบลังกาวงศ์มาถือปฏิบัติ หลังจากได้ส่งทตไปพร้อมกับทตของนครศรีธรรมราช เพื่อขอ
พระศรีหลปฏิมาหรือพระพุทธสิหิงค์จากลังกามาสักการะบูชาที่กรุงสุโขทัย
มอญ ในสมัยพ่อขุนรามค าแหงนี้ มีพระเจ้าฟ้ารั่ว (มะกะโท) กษัตริย์มอญได้เข้า
มาสวามิภักดิ์ และยอมเป็นประเทศราช
ี
จน ในสมัยพ่อขุนรามค าแห่งมหาราชนั้น ตรงกับรัชสมัยของพระเจ้ากุบไลข่าน
หรือหงวนสีโจ๊วฮ่องเต้ ได้ส่งทูตไปจีนเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับจีน ถึง 2 ครั้ง และได้ทาถ้วยชาม
ั
ี่
ี่
ทเรียกว่า “เครื่องสังคโลก” จ าหน่ายในสุโขทย โดยตั้งเตาทาทเมืองสุโขทย และเมืองศรีสัชนาลัย
ั
เตาททาเครื่องสังคโลก เรียกว่า “เตาทเรียง” นับได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมทส าคัญในสมัยกรุง
ุ
ี่
ี่
สุโขทย และสินค้าทซื้อมาขายจากจีน ได้แก่ ผ้าไหมแพรพรรณ เครื่องถ้วยชาม นอกจากนี้ยังมี
ี่
ั
การหล่อปั้นพระพุทธรูป เทวรูป การท าเครื่องทอง เครื่องเงิน เป็นต้น
2.3 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท)
เป็นพระโอรสของพญาเลอไทย ในสมัยพญางั่วน าถม ได้ขึ้นครองราชย์ เมื่อปี
พ.ศ. 1882 ได้แต่งตั้งพญาลิไทไปปกครองเมืองศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นเมืองอุปราช ในปี พ.ศ. 1890
ั
เกิดการจลาจลสู้รบแย่งชิงราชสมบัติ พญาลิไทยกทพจากเมืองศรีสัชนาลัยมายังเมืองสุโขทย
ั
ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า พระมหาธรรมราชาท 1 พระองค์นับเป็นกษัตริย์ท ี่
ี่
มีพระปรีชาสามารถอย่างมากเช่นเดียวกับพ่อขุนรามค าแหง พระอัยกา แต่เหตุการณ์บ้านเมือง
ั
ไม่เปิดโอกาสให้พระองค์สามารถจะขยับขยายอ านาจให้อาณาจักรสุโขทยกลับมาแผ่ไพศาล
ดังเช่นสมัยของพระอัยกาได้อีก พระองค์จึงเลือกสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางด้านพระพุทธศาสนา
นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ แบบนครพัน (ใกล้เมืองเมาะตะมะ) ไปยังดินแดนต่าง ๆ
พระราชกรณียกิจที่ส าคัญ มีดังนี้
่
1. ขยายอาณาเขต ทรงขยายอาณาเขตออกไปเกือบถงครึงหนึ่ง
ึ
ของสมัยพ่อขุนรามค าแหงไว้ ดังนี้
ทิศเหนือ อาณาเขตถึง เมืองแพร่ เมืองน่าน เมืองปัว เมืองหลวงพระบาง
ทิศใต้ อาณาเขตถึง เมืองชากังราว เมืองนครชุม เมืองบางพาน
เมืองพระบาง และเมืองปากยม

