Page 54 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ประถม
P. 54
45
เรื่องที่ 1 มรดกทางวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย
้
ี่
ั
มรดกทางวัฒนธรรมสมัยสุโขทยทสะทอนถึงวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ สภาพ
บ้านเมืองในสมัยสุโขทัย ในเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณ ภาษาและวรรณกรรม ศิลปหัตถกรรม
ี
ศาสนา ความเชื่อและพิธีกรรม การละเล่นพื้นบ้าน นาฎศิลป์และดนตรี โบราณวัตถุ โบราณสถาน
เป็นต้น มรดกทางวัฒนธรรมสมัยสุโขทัยที่น่าสนใจ มีดังนี้
1.1 ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ
ั
สมัยสุโขทยได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอารยธรรมขอม มีการพบภาพ
ี่
จ าหลักทปราสาทบายน ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันท 7 มีรูปบุคคลก าลังลอยวัสดุในน้ า ซึ่งน่าจะมี
ี่
ี
ั
ความเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องการลอยประทปในสมัยสุโขทย นอกจากนี้ ยังพบชามสังคโลก
สมัยสุโขทัย ที่มีรูปกระทง เป็นลายบนชามสังคโลกอีกด้วย
ี
ั
สมัยสุโขทย ไม่ได้เรียกว่า ลอยกระทง แต่ใช้ค าว่า เผาเทยน เล่นไฟ เป็นถ้อยค า
ี่
ี่
ทปรากฎในศิลาจารึก หลักท 1 ด้านท 2 กล่าวถึง ประเพณีและพิธีกรรมในสมัยพ่อขุนรามค าแหง
ี่
ั
มหาราช ประชาชนมีการท าพิธีกรานกฐินตามวัดต่าง ๆ แล้วพากันมายัง เมืองสุโขทย ทางประตู
ี
ี่
เมืองทง 4 ด้าน ทกลางเมืองสุโขทยมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ผู้คนต่างมากราบไหว้ และเผาเทยน
ั
ั้
ี
เล่นไฟ ซึ่งเผาเทยน หมายถึง การจุดเทยนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับการจุดธูป ส่วนเล่นไฟ
ี
หมายถึง การจุดดอกไม้ไฟ
ี
จากศิลาจารึก หลักท 1 ค าว่า เผาเทยน เล่นไฟ คงหมายถึง ประเพณี และ
ี่
พิธีกรรมในงานเฉลิมฉลองไหว้พระในศาสนสถานส าคัญทอยู่กลางเมืองสุโขทย เชื่อมโยงกับ
ั
ี่
ประเพณีกรานกฐิน ที่มีวันขึ้น 15 ค่ า เดือน 12 เป็นวันสุดท้าย ตามพุทธบัญญัติ
1.2 พนมเบี้ย พนมหมาก พนมดอกไม้
ี่
พนมเบี้ย พนมหมาก และพนมดอกไม้ เป็นค าทปรากฎในศิลาจารึก หลักท 1
ี่
ด้านที่ 2 บรรทัดที่ 13 – 17 จารึกไว้ดังนี้
“เมื่อออกพรรษา กรานกฐิน เดือนณึ่งจึ่งแล้ว เมื่อกรานกฐิน มีพนมเบี้ย มีพนม
หมาก มีพนมดอกไม้ มีหมอนนั่งหมอนโนน บรพารกฐินโอยทาน แล่ปีแล้ญิบล้าน ไปสูดญัติกฐิน
ิ
ถึงอรัญญิกพู้น”
จากข้อความในศิลาจารึก แสดงให้ทราบว่า พนมเบี้ย พนมหมาก และพนม
ดอกไม้ เป็นเครื่องไทยธรรมส าหรับถวายพระสงฆ์ในพิธีกรานกฐิน หรือพิธีถวายผ้ากฐิน
ตามประเพณีในพุทธศาสนา ภายหลังเทศกาลออกพรรษาแล้ว

