Page 65 - 25. art 11003
P. 65

55





                                                                                      ู
                                                                                                       ุ
               ปรปกษ ก็ไดทรงหัดฟอนรํา ไดยินเคยทรงรําพระแสงขอบนคอชางพระที่นั่งเปนพุทธบชาเมื่อครั้งเสด็จพระพทธบาท
                                                                                                ี่
                                                                                    ื่
               ตามโบราณราชประเพณี เมือปวอก พ.ศ. 2414 การฟอนรําในกระบวนยุทธอยางอน เชน ตีกระบกระบองก็เปน
                                                                                        
                                                                                                           
                    ี่
                                                                                                 ั
                                                                                                    ื
                                    
                                                                              ิ
                                                                                ี
                                                                                    ี
                                       ั
                                                    
                                                                 
               วิชาทเจานายตองทรงฝกหดมาแตกอน สวนกระบวนฟอนรําในการพธ ยังมตัวอยางทางหวเมองมณฑล
               ภาคพายัพ ถาเวลามีงานบุญใหทานเปนการใหญก็เปนประเพณีทเจานายตั้งแตเจาผครองนครลงมาทจะฟอนรํา
                                                                                     ู
                                                                                                    ี่
                                                                      ี่
                                                           
                                                                                                        
                                                                      ั
                                                                         
                                                                                            ั
                                                                                               
               เปนการแสดงโสมนัสศรัทธาในบุญทาน เจานายฝายหญิงก็ยอมหดฟอนรําและมเวลาทจะหดฟอนรําในการพธ       ี
                                                                                        ี่
                                                                                                            ิ
                                                                                   ี
                                                             
                                                                                         
                                                         
               บางอยางจนทุกวันนี้ ประเพณีตาง ๆ ดังกลาวมา สอใหเหนวาแตโบราณยอมถอวาการฟอนรําเปนสวนหนึ่งใน
                                                               ็
                                                                                 ื
                                                                                                
                                                                                                   
               การศึกษา ซึ่งสมควรจะฝกหัดเปนสามัญทั่วมุกทุกชั้นบรรดาศักดิ์สืบมา
                      การที่ฝกหัดคนแตบางจําพวกใหฟอนรํา ดังเชนระบําหรือละครนั้น คงเกิดแตประสงคจะใครดูกระบวน
                                                                                 ํ
                                                                                                 
                                                                                                        ํ
               ฟอนรํา วาจะงามไดถึงที่สุดเพียงไร จึงเลือกสรรคนแตบางเหลาฝกฝนใหชํานิชานาญเฉพาะการฟอนรํา สาหรับ
               แสดงแกคนทั้งหลายใหเห็นวาการฟอนรําอาจจะงามไดถึงเพียงนั้น เมื่อสามารถฝกหัดไดสมประสงคก็เปนที่ตอง
               ตาติดใจคนทั้งหลาย จึงเกิดมีนักรําขึ้นเปนพวกที่หนึ่งตางหาก แตที่จริงวิชาฟอนรําก็มีแบบแผนอันเดียวกับที่เปน
                                                       1
               สามัญแกคนทั้งหลายทุกชั้นบรรดาศักดิ์นั่นเอง”
                                                                                                      ี
                                                                    
                                                                 ิ
                                             
                               ิ
                      ราชบัณฑตยสถาน ไดใหความหมายของนาฏยศลปไวกวาง ๆ ตลอดจนกําหนดการออกเสยงไวใน
               พจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2530 ดังนี้
               “นาฏ, นาฏ – [นาด, นาตะ – นาดตะ-] น. นางละคร, นางฟอนรํา, ไทยใชหมายถึง
                        หญิงสาวสวย
                      เชน นางนาฏ นุชนาฏ (ป.; ส.)
                      นาฏกรรม [นาดตะกํา] น. การละคร, การฟอนรํา.
                      นาฏดนตรี [นาดตะดนตรี] น. ลิเก.
                      นาฏศิลป [นาดตะสิน] น. ศิลปะแหงการละครหรือการฟอนรํา.
                                                         
               นาฏก [นาตะกะ (หลัก), นาดตะกะ (นิยม)] น. ผูฟอนรํา. (ป.; ส.)
               นาฏย [นาดตะยะ-] ว. เกี่ยวกับการฟอนรํา, เกี่ยวกับการแสดงละคร (ส.)
                      นาฏยเวที น. พื้นที่แสดงละครล ฉาก.
                      นาฏยศาลา น. หองฟอนรํา, โรงละคร
                      นาฏยศาสตร น. วิชาฟอนรํา, วิชาแสดงละคร”
                                                             2

               หมายเหตุ

                        1   สมเด็จพระเจาบรมวงศเธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ, “ประวัติการฟอนรํา.” ใน การละครไทย อางถึงใน หนังสืออานประกอบคํา
                                                                    
                                             ี
                 บรรยายวิชาพื้นฐานอารยธรรมไทยตอนดนตรและนาฏศิลปไทย.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร (พระนคร : โรงพิมพมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร, 2515) ,
                                                                                                     
                 หนา 12  -14.
                        2  พจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2530. พิมพครั้งที่ 3 (กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, 2531), หนา 279.
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70