Page 66 - 25. art 11003
P. 66

56





                                                                     ี่
                      ธนิต  อยูโพธิ์  ไดอธิบายความหมายของนาฏยศิลปดังทปรากฏในคัมภีรอินเดียไวดังนี้
                                                                                   
                                                                                ั
                                                        
                                                                               
                      “คําวา “นาฏย” ตามคัมภีรอภิธานัปปทีปกาและสูจิ ทานใหวิเคราะหศพทวา “นฏสเสตนตินาฏย” ความ
                                                                                    ิ
               วา ศิลปะของผูฟอนผูรํา เรียกวา นาฏย และใหอรรถาธบายวา “นจจ วาทต คีต อท ตุริยติก นาฏยนาเมนุจจเต”
                                                       
                                                                             ิ
                                                              ิ
               แปลวา การฟอนรํา การบรรเลง (ดนตรี) การขับรอง หมวด 3 แหงตุริยะนี้ ทาน (รวม) เรียกโดยชอวา นาฏย ซง
                                                                               
                                                                                                 ื่
                                                                                                            ึ่
                                                                     
                             ็
                                                                               ู
               ตามนี้ทานจะเหนไดวา คําวา นาฏะ หรือนาฏยะ นั้น การขับรอง 1 หรือพดอยางงาย ๆ ก็วาคํา “นาฏย” นั้นม ี
                                                                                      
                      
                                                                                           ิ
                                                                                               
                                                                      
                                                                       ี
                                                                    
                                 
               ความหมายรวมทงฟอนรําขับรองและประโคมดนตรีดวย ไมใชมความหมายแตเฉพาะศลปฟอนรําอยางเดียว
                              ั้
               ดังที่บางทานเขาใจกัน แมจะใชคําวาหมวด 3 แหงตุริยะหรือตุริยะ 3 อยาง แสดงใหเห็นวาใชคํา “ตุริยะ” หมายถึง
                                                                                           ิ
                                                                               
                                                                                    ี
                                                                                                  
                                                                                                            ํ
               เครื่องตีเครื่องเปา แตแปลงกันวา “ดนตรี” ก็ได นี่วาตามรูปศัพท แทที่จริงแมในวิธการปฏบติศลปนจะรับระบา
                                                                                            ั
                                                                                               ิ
               รําฟอนไปโดยไมมีดนตรีและขับรองประกอบเรื่องและใหจังหวะไปดวยนั้นยอมเปนไปไมไดและไมเปนศลปะ
                                                                                           
                                                                                     
                                                                                                         ิ
                                                                                                      
                                                                                                    
               ที่สมบูรณ ถาขาดดนตรีและขับรองเสยแลว แมในสวนศิลปะของการฟอนรําเองก็ไมสมบรณในตัวของมน พระ
                                                                                          ู
                                               ี
                                                                                                       ั
               ภรตมุนี ซึ่งศิลปนทางโขนละครพากันทําศรีษะของทานกราบไหวบูชา เรียกกันวา “ศรีษะฤๅษี” นั้น มตํานานวา
                                                                                                    ี
               ทานเปนปรมาจารยแหงศิลปะทางโขนละครฟอนรํามาแตโบราณ เมอทานไดแตงคัมภีรนาฏยศาสตรขึ้นไว ก็ม ี
                                                                           
                                                                        ื่
                                                                          
                                                                                              
                                                                             ึ
               อยูหลายบริเฉทหรือหลายบทในคัมภีรนาฏยศาสตรนั้น ททานไดกลาวถงและวางกฎเกณฑในทางดนตรีและ
                                                                  
                                                                 ี่
                                                        ั
                                                                                                   
                                                                                                            
               ขับรองไวดวย และทานศารงคเทพผแตงคัมภีรสงคีตรัตนากรอนเปนคัมภีรทวาดวยการดนตรีอกทานหนึ่งเลา
                                              ู
                                                                                 ี่
                                 
                                                                                                 ี
                                                                        
                                                                     ั
                                                      ิ
               ก็ปรากฏวาทานไดวางหลักเกณฑและอธิบายศลปะทางการละครฟอนรําไวมากมายในคัมภีรนั้น เปนอันวาศิลปะ
               3 ประการ คือฟอนรํา 1 ดนตรี 1 ขับรอง 1 เหลานี้ตางตองประกอบอาศัยกัน คําวา นาฏยะ จึงมีความหมายรวมเอา
               ศิลปะ 3 อยางนั้นไวในศัพทเดียวกัน”
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71