Page 22 - ข้อขัดแย้ง ล่าสุด
P. 22
“กระบวนการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ภาคประชาชน”
1. การรวมตัวของประชาชนเพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ส่งเสริมการมีส่วน
ร่วมกับภาคประชาชนในรูปแบบของเครือข่ายและอาสาสมัคร
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ภาย
ใต้ระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยเครือข่ายและอาสาสมัคร
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ศ. 2548 โดยเครือข่ายและอาสา
สมัครได้รวมตัวกันเป็นศูนย์ประสานงานในชุมชน เพื่อดําเนิน
งานเกี่ยวกับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หรือจัดการรณรงค์
และให้ความรู้ การให้คําปรึกษา ช่วยเหลือเป็นผู้ดําเนินการหรือ
ประสานงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิและ
เมื่อพระราชบัญญัติการไกล่
เสรีภาพและการจัดการความขัดแย้ง การระงับข้อพิพาทชุมชน
เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 มีผลใช้
เสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายในการทํางานด้านสิทธิเสรีภาพ
บังคับแล้ว กรมคุ้มครองสิทธิและ
ตลอดจนดําเนินการหรือให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนากลไก
เสรีภาพมีหน้าที่ในการส่งเสริม
การจัดการความขัดแย้งในชุมชน และประสานงานหน่วยงานที่
สนับสนุนให้ประชาชนรวมตัวกันเป็น
เกี่ยวข้องในกรณีที่มีเหตุความไม่เป็นธรรมในชุมชน
ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน
เพื่อดําเนินงานเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ย
ข้อพิพาทภาคประชาชนได้ โดย ลักษณะต้องห้าม
ประชาชนจํานวนไม่น้อยกว่า 5 คน ที่ (1) เป็นบุคคลล้มละลาย
ประสงค์จะดําเนินการเกี่ยวกับการไกล่ (2) เป็นบุคคลที่ศาลมีคําสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคน
เกลี่ยข้อพิพาท ต้องมีคุณสมบัติและ เสมือนไร้ความสามารถหรือคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สม
ไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ประกอบ
(3) เป็นผู้เคยรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก
เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิดที่ได้กระทําโดยประมาทหรือ
คุณสมบัติ
ความผิดลหุโทษ
(1) เป็นบุคคลธรรมดาที่มี
สัญชาติไทย
ทั้งนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะดําเนินการตรวจสอบ
(2) เป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคณะทํางานบริหารประจํา
(3) มีภูมิลําเนา หรือถิ่นที่อยู่ใน
ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน จากเอกสารหลักฐาน
เขตที่จะขอขึ้นทะเบียนศูนย์ไกล่
และฐานข้อมูลของทางราชการ หากมีคุณสมบัติครบถ้วนจึงมี
เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน
คําสั่งแต่งตั้งเป็นคณะทํางานบริหารประจําศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อ
พิพาทภาคประชาชน

